forwriter.com
 
นวนิยายรักโรแมนติก

 


ดั่งไฟรัก

โดย ฟีลิปดา

 

หากไม่เป็นเพราะงาน โรมรันบอกกับตัวเองว่า เขาไม่มีทางเหยียบเข้ามาในบาร์ แน่ เขาเกลียดสถานที่อย่างนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะช่วยไม่ได้ นอกจากจะเป็นเพราะหน้าที่แล้ว สถานที่แบบนี้ก็ดันกลายเป็นจุดหนึ่งของการท่องเที่ยวในประเทศเสียแล้ว มองไปรอบ ๆ ตัว แขกโดยมากก็เป็นชายชาวต่างประเทศ เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนผู้หญิงมีหมดทั้งผมดำ ผมแดง ผมทองยืนกระแซะ กอดจูบลูบคลำกันอย่างไม่สนใจใคร ๆ และที่อยู่เคียงข้างเขา ก็น่าทึ่ง เพราะร้อยตรีหญิงเปลวดาว ช่างทำตัวกลมกลืนกับสถานที่ได้เป็นอย่างดี ด้วยเครื่องแต่งกายที่แสนจะเซ็กซี่ เธอสวมวิกผมสีน้ำตาลแดงแต่งหน้าจัด สูบบุหรี่พ่นควันโขมง ดื่มเหล้าแก้วชนแก้ว ก็อย่างนี้นี่เองที่ พี่ชายเธอถึงได้ห่วงนัก

“ พี่รบ อย่าทำหน้าเซ็งนักสิ ”

“ ฉันเหม็นบุหรี่ อย่าพ่นควันมาทางนี้ ”

หญิงสาวหัวเราะคิก ความจริงใช่ว่าโรมรันจะเหม็นบุหรี่จนทนไม่ได้หรอก แต่เป็นเพราะเขาไม่ชอบและไม่อยากให้เธอสูบต่างหาก

“ ทำตัวเป็นตาแก่ไปได้ ”

“ ไม่ต้องพูดมาก ไหนละสายที่แกนัดไว้ ถ้าหลอกฉันนะยัยส้ม กระทืบอานเลย ”

“ โห ... พูดจาเป็นสุภาพบุรุษเอามาก ๆ เลยนะพี่รบ มิน่าเมีย ... ” เปลวดาวสะดุดกึกเพราะสายตาดุๆ ของโรมรัน แต่เมื่อมองเห็นคนคู่หนึ่งเดินเข้ามาก็เปลี่ยนเรื่องว่า “ เอะนั่น ผู้หญิง ชุดสีเขียวที่เดินเข้ามาทางซ้ายน่ะ ใช่คนที่พี่รบบอกให้ตามประวัติอยู่ใช่ไหม ? ”

โรมรันมองไปยังตำแหน่งที่บอก ก็เห็นสตรีสาวที่เขาเคยเห็นแสดงอาการสนิทสนม กับผู้ที่เขาติดตามตอนอยู่ที่ดอนเมืองเมื่อไม่กี่วันมานี่เอง เธอควงแขนมากับชายหนุ่มที่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนไทยอย่างสนิทสนมเกินขอบเขต

“ พี่รบอ่านรายงานแล้วยัง หล่อนชื่อลลิตา งามเลิศ เป็นนักศึกษาที่ลงทะเบียนไว้หลายสถาบัน สงสัยจะลงเอาไว้บังหน้า แต่ที่ควงมาไม่ใช่เบอร์ห้าของพี่รบหรอกนะ หนุ่มที่ไหนไม่รู้ หล่อชะมัด ”

“ แสงแค่นี่ดูยังไงหล่อ ”

“ เซ้นส์มันบอกน่ะ ”

โรมรันหัวเราะหึในลำคอ มองหนุ่มสาวที่ตรงเข้าไปยังอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคงจะนัดกันไว้ที่นี่ ท่าทางสาวลลิตาผู้นั้นออกจะเป็นที่รู้จักไม่น้อย เพราะเห็นใคร ๆ ก็ดึงหล่อนเข้าไปกอด บางคนก็หอมแก้มเอาดื้อ ๆ ก็มี เจ้าตัวก็หัวเราะคิกคักชอบใจ

ชายหนุ่มกำลังนึกอยู่ว่า กลุ่มคนพวกนี้จะข้อเกี่ยวกับเบอร์ห้าของเขาหรือเปล่า เปลวดาว ก็สะกิด ที่แขน

“ สายมาแล้ว พี่รบรอที่นี่นะ ส้มนัดไว้ที่หน้าห้องน้ำ ไม่เกินสิบนาที เดี๋ยวมา ”

“ แน่ใจนะว่าปลอดภัย ”

“ ไม่ต้องห่วง เคยติดต่อกันหลายครั้งแล้ว พี่รบลองจับตาผู้หญิงคนนั้นเป็นของแถมดีกว่าเผื่อจะได้อะไรดี ๆ เพิ่มขึ้น ”

โรมรันพยักหน้า เขามาที่นี่ก็เพื่อเป็นเพื่อนเปลวดาวเท่านั้น เจ้าตัวไม่ได้ขอร้อง แต่เป็นพันเพลิงโทรมา

“ ยัยส้มมันอยากทำคดี ที่ค้างของมันต่อ อีกอย่างสายไม่ยอมให้ข้อมูลกับคนอื่น นอกจากมัน ไปเป็นเพื่อนมันหน่อยแล้วกัน ฉันไม่ว่างต้องไปดูแลความเรียบร้อย งานเลี้ยงที่สถานฑูต ”

โรมรันลอบมองไปที่กลุ่มนั้นบ่อย ๆ ก็เห็นไม่มีอะไรผิดสังเกต ประมาณสิบนาที นั่นแหละที่เจ้าหนุ่มที่ควงมากับ สาวลลิตา ถึงได้เดินออกจากกลุ่มไปทางเดียวกับที่เปลวดาวเดินไป

ก็คงไปห้องน้ำเช่นเดียวกันกระมัง

ไม่ถึงสิบนาทีจริง ๆ เมื่อเปลวดาว เดินกลับมา ดึงแขนเขาเหมือนกระชาก

“ กลับได้แล้วพี่รบ ”

โรมรันเดินตามอย่างว่าง่ายพอพ้นบาร์ออกมาจนถึงรถแล้วนั่นแหละ โรมรันจึงถามขึ้น

“ มีอะไรผิดพลาดเหรอ ”

“ ไม่มี แค่ตบหน้าไอ้ขี้เมาคนหนึ่งนึกว่าส้มเป็นอีตัว ”

“ ใครกันตาถึง? ”

“ พี่รบ !”

“ นี่เป็นคำชม หากปลอมตัวได้ถึงขนาดนี้ถือว่าเก่งรู้ไหม? ”

พูดแล้วโรมรันก็หัวเราะหึๆ อยู่ในลำคอ สร้างความหงุดหงิดให้อีกฝ่ายเพิ่มเข้าไปอีก

“ มานี่ ส้มขับเอง ” เจ้าหล่อนดึงกุญแจไปจากมือเขา จัดแจงเข้าไปนั่งที่คนขับ สตาร์ท เครื่องเร่งโรมรันว่า

“ ขึ้นรถเร็วไม่รอนะ ”

แล้วรถก็เคลื่อนปราดออกไปทันทีก่อนที่โรมรันจะได้ปิดประตูด้วยซ้ำ

“ ขับดี ๆ แผลเก่ายังไม่ได้ซ่อม เดี๋ยวได้แผลใหม่ ”

“ รับรองน่า ไอ้คันนี้ของพี่รบเหรอ มีไม่กี่คันนะในเมืองไทย ตอนไปดูมอเตอร์โชว์ ส้มเชียร์ให้พี่วีเอาไว้สักคัน แต่ดันบอกไม่เอาเพราะพริตตี้สวยเกินไป กลัวพี่มณีหึง คนอะไรจะกลัวคู่หมั้นขนาดนั้น ” พูดจบตอนนี้ เจ้าหล่อนก็เลี้ยวแบบยกล้อ

“ เขาไม่ได้กลัว แต่เขารัก พอรักเขาก็ไม่อยากให้แฟนเขาไม่สบายใจ ”

“ แปลกนะ พี่วี เห็นดุๆ อย่างนั้นก็เถอะกับแฟนตัวเองนี่ถนอมความรู้สึกจังเลย ผิดกับพี่รบเห็นเฉยๆ อย่างนี้เลือดเย็นชะมัด ”

“ มันเรื่องอะไรมาว่าฉัน? ”

“ ก็คุณหญิงศีตลานั่นไง รินดาวมันเพิ่งเล่าให้ฟัง เรื่องพี่รบยื่นหนังสือหย่ากับเธอทันทีที่จดทะเบียนสมรสน่ะ ”

“ ให้ตาย พวกแกนี่มันไม่รู้จักหุบปากเรื่องคนอื่นบ้างรึไง? ”

“ จะหุบปากได้ยังไง พี่รบเป็นเหมือนพี่ชายพวกเรานะ ยกเว้นยัยแสนดาวมันไม่ยอมรับ ด้วยเหตุผลที่ว่า ถ้ามันถึงสามสิบแล้วยังหาผู้ชายถูกใจไม่ได้ มันจะมาขอแต่งกับพี่รบก่อนหากพี่รบไม่ว่างมันจะเบนเป้าไปที่พี่เพลิง ”

“ พวกแกนี่มันยังไงนะ เป็นผู้หญิงพูดออกมาได้ไม่กระดากปาก ”

“ อ้าว ! ก็ตอนนั้นมันเมานี่พี่ ” ตอบแล้วเปลวดาวก็หัวเราะก้องอย่างชอบใจ แต่แล้วเจ้าตัวก็ต้องเหยียบเบรคเมื่อรถคันหน้าเบรคอย่างกระชั้นชิด แต่ก็ไม่ทันเพราะเธอเสยเอาท้ายเข้าเบา ๆ

“ เวร ! เบรคอย่างนี้ได้ยังไง ” ร้อยตรีสาวสบถ เปิดประตูรถลงไปอย่างรวดเร็ว

“ นี่คุณ ขับรถภาษาอะไร เบรคกะทันหันอย่างนี้ ฉันก็ชนท้ายนะสิ ไหนมีใบขับขี่ไหม ? ” เปลวดาวโวยวายเพราะความหงุดหงิด แต่ถูกเสียงเย็น ๆ ย้อนกลับว่า

“ เป็นใคร จะมาดูใบขับขี่ฉัน ”

เมื่อมองหน้าคู่ กรณีชัดขึ้น ร้อยตรีหญิงเปลวดาวถึงกับอึ้งไปเลย แล้วเสียงโรมรันที่เดินตามมาก็พูดขึ้น

“ อย่าซ่ายัยส้ม ไม่รู้เหรอว่าเจอกับใคร ”

“ ขอโทษค่ะ ” เปลวดาวรีบยกมือไหว้ จนอีกฝ่ายงง แต่เมื่อมองปราดไปยังคนที่เดินตามหลังมาเธอก็ ไม่พูดอะไรมองทั้งโรมรันและเปลวดาวสลับกัน ก่อนจะเหยียดยิ้มห มุนตัวกลับ เปิดประตูรถตัวเอง แต่โรมรันฉุดแขนไว้ก่อน

“ ผมขับเอง ”

ม.ร.ว.ศีตลามองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ แต่ไม่อยากจะแสดงต่อหน้าคนอื่น เพราะรู้ว่า โรมรันคงไม่ยอมเหมือนกัน จึงเดินอ้อมไปอีกด้านเปิดประตูเข้าไปนั่ง

โรมรันสตาร์ทรถแล้วเหมือนจะคิดอะไรได้ เขาหมุนกระจกลงเรียก เปลวดาว มาสั่ง ว่า

“ ขับรถนั่นไปเข้าอู่ แล้วหาอีกคันรุ่นเดียวกันไปส่งที่บ้านคุณหญิง พรุ่งนี้ก่อน เจ็ดโมงเข้าใจไหม ? ”

“ พี่รบ นี่มันจะตีหนึ่งแล้วนะ ส้มจะไปหารถที่ไหน ”

“ ทำตามสั่ง ”

ชายหนุ่มกำชับอย่างไม่สนใจ กับเสียงโอดครวญของอีกฝ่าย เขาออกรถในทันที

เปลวดาว ยืนฮึดฮัดอย่างขัดใจ

พี่รบนะพี่รบ เจอเมียเข้าหน่อย ทิ้งน้องไปเลย

“ เบรคกระชั้นชิด แบบนี้มันอันตรายรู้ไหม? ”

“ รู้ ! ถ้าไม่มีเหตุต้องเบรค ใครจะบ้าไปเบรคแบบนั้นเล่า ขับตามหลังมาทำอะไรกันอยู่ถึงไม่ระวัง ” เธอสวนกลับ มันเรื่องอะไรที่รถของเธอจะต้องมาโดนชนท้ายด้วยรถของตัวเองโดยมีผู้หญิงอีกคนเป็นคนขับ ในช่วงเวลาห่างกันไม่ถึงอาทิตย์ แบบนี้

โรมรันขมวดคิ้วชำเลืองมองคนพูด

“ มาหงุดหงิดใส่ผมทำไม ผมไม่ใช่คนขับชนท้ายคุณนะ ”

“ ก็ถ้าคุณไม่เอารถคันนี้มาใช้ตั้งแต่แรกมันจะเกิดอย่างนี้เหรอ ”

“ อย่าพาลน่า มันไม่เกี่ยวกับรถ อยู่ที่คนขับต่างหาก เอะ... รึโกรธที่ผมให้คนอื่นขับรถคุณหญิง ”

ม.ร.ว.ศีตลา หน้าบึ้ง ที่เขาพูดมันก็มีส่วนถูกอยู่หรอก แต่ก็ไม่อยากยอมรับ

“ จะให้ดิฉันอารมณ์ดีกับการถูกชนท้ายด้วยรถของตัวเองสองครั้งในช่วงเวลาไม่ถึงอาทิตย์นี่เหรอ ”

“ ผมก็สั่งให้เอาคันใหม่มาให้แล้วไง ”

“ คงได้ดังใจนายโรมรัน อัศวชาติหรอก ” เธอประชด

โรมรันชำเลืองมอง

“ คุณหญิงออกมาทำอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ ”

“ ดิฉันยังไม่อยากรู้เรื่องของคุณเลย ”

“ ทำไมคุณแม่ไม่มาด้วย ” เขาชวนคุยไม่สนใจอารมณ์หงุดหงิดของเธอ

“ แยกกันไปคนละงาน ”

“ คุณแม่ขับรถเองเหรอ? ”

“ ท่านไม่ยอมให้คนอื่นขับให้ ”

โรมรันนิ่งคิดก่อนจะพูดว่า

“ เดี๋ยวจะส่งคนไปให้ แล้วจะพูดกับท่านเอง คุณหญิงก็เหมือนกันไปไหนมาไหนอย่าให้มันดึกนัก ถ้ามีรถชนท้ายไม่จำเป็นต้องลงมาจากรถแบบนี้ เผื่อเป็นกลลวงของคนร้ายจะลำบาก และ... ”

“ รู้แล้วไม่ต้องสอน ” เธอตัดบท

“ เก่ง ! ”

โรมรันประชดกลับ แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ

ม.ร.ว.ศีตลา ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงได้หงุดหงิดนัก ปกติเธอเองก็ไม่ได้เป็นคนทีฉุนเฉียวอะไรง่ายๆ แต่กับเขา ... ผู้หญิงเมื่อครู่ เขาควงได้ยังไงนะ คนก่อนยังเข้าท่ากว่าตั้งเยอะ

แต่ให้ตาย ... รถของเธอ เธอหวง แต่เขาก็ถือสิทธิ์เอาไปใช้ก็ยังพอทน แต่นี่เธอโกรธจริงๆ ที่เห็นผู้หญิงคนอื่นขับรถเธอ หนำซ้ำมาชนท้ายเธอเหมือนแกล้งอีก และมันก็น่าโมโหชะมัด ที่เขาดันเดาใจได้ว่าเธอโกรธ

ถ้าเธอขืนทำตัวให้เขาอ่านได้ง่ายอย่างนี้ มีหวัง ... แพ้เขาแน่

โทรศัพท์ของโรมรันดังขึ้นเมื่อใกล้จะถึงจุดหมาย ม.ร.ว.ศีตลา ได้ยินเขาพูดสั้นๆว่า เออ คำเดียวก็วางหู

เพราะคิดว่าเขาคงจะออกไปทำงานด่วนเหมือนทุกครั้งที่ได้รับโทรศัพท์ ดังนั้นเมื่อโรมรันเคลื่อนรถไปจอดที่หน้าตึกแล้ว ม.ร.ว.ศีตลาก็พูดว่า

“ คุณรบจะเอารถออกไปก็ได้ ”

โรมรันหันมามองหน้าเธอ

“ พูดเป็นแล้วเหรอ? ”

“ อ้าว !”

“ ก็เห็นนั่งเงียบไปตั้งนาน ”

“ คุณก็เงียบเหมือนกัน ” เธอย้อน รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น ที่จับน้ำเสียงรวน ๆ เขาได้ แสดงว่าที่เงียบไป เขาก็ไม่สงบนักหรอก

“ จะให้พูดอะไรล่ะ มันไม่ถูกหูคุณหญิงไปเสียทุกอย่าง ถามจริงอยู่กับแฟนคุณหญิงเป็นอย่างนี้ไหม? ”

“ ทำไม? ”

“ ระวัง เขาเบื่อตาย ”

ม.ร.ว.ศีตลาสั่นหน้า

“ ไม่เคยหรอก ไอ้แบบนี้ดิฉันเก็บไว้สำหรับคุณโดยเฉพาะ ”

“ คิดอยู่แล้ว ไอ้ที่แย่ๆ ต้องเป็นผมรับเละ ”

ชายหนุ่มเปิดประตูจะลง แต่หญิงสาวบอกว่า

“ คุณรบไม่ต้องมารยาทดีส่งหรอก ดิฉันเดินขึ้นไปเองได้ ออกไปทำงานคุณเถอะ ”

โรมรันหันมามองฉุนๆ

“ ไม่ได้ไปไหน จะนอนที่นี่ ” พูดแล้วเขาก็เดินนำขึ้นไปก่อน

“ ไม่ต้องกดกริ่งนะ ดิฉันมีกุญแจ ” ม.ร.ว.ศีตลารีบบอก พร้อมคว้านหากุญแจในกระเป๋าตัวเอง

“ ทำไมไม่มีคนรอ ”

“ โทรมาบอกป้าชมแล้วว่าไม่ต้องรอ เพราะจะดึก ”

“ ผมเปิดเอง ” โรมรันดึงเอากุญแจในมือหญิงสาวไปไขประตูแทน

แสงไฟเพียงสลัวที่เปิดทิ้งเอาไว้ ทำให้ม.ร.ว.ศีตลาเดินลิ่วขึ้นบันไดไปได้อย่างง่ายดาย และไม่สนใจจะกล่าวลาโรมรันแต่อย่างไร แต่เธอก็ต้องจะมาชะงักนิดหนึ่งก็ตอนที่เสียงโรมรันไล่หลังกวนๆ ว่า

“ ไม่ต้องฝันถึงผมหรอกนะคุณหญิง ”

แล้วโรมรันก็เดินเข้าห้องตัวเอง ทั้งคู่ต่างมองไม่เห็นนางชมนาด ที่นั่งอยู่เก้าอี้มุมห้องและเพิ่งจะงัวเงียขึ้นมาจากเสียงพูดของโรมรัน นางกำลังสงสัยว่าสองคนนี้ไปเจอกันได้อย่างไร และทำไมคุณหญิงจึงไม่บอกตอนที่โทรมาว่าไม่ต้องรอ

แต่ยังไม่ทันที่นางชมนาดจะได้ลุก โรมรันก็เปิดประตูห้องเดินออกมา

“ อ้าว ป้าชมมานั่งอยู่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่ไปนอน ”

“ ป้ามานั่งหลับรอคุณหญิงค่ะ ” นางตอบ

“ ไปนอนเถอะครับ คุณหญิงขึ้นห้องไปแล้ว ”

“ ไปเจอกับคุณรบที่ไหนเหรอคะ? ” นางถาม

“ เอาไว้คุยพรุ่งนี้เถอะครับดึกแล้ว ” โรมรันตอบเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ หยิบเหล้ามาขวดหนึ่ง

ก่อนจะเดินลิ่วเข้าไปที่ห้องสมุดแทนที่จะเข้าไปห้องตัวเอง

ม.ร.ว.ศีตลากำลังแปรงผมเมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น พอกดรับเสียงไม่คุ้นหูนักก็พูดว่า

“ สวัสดีค่ะคุณหญิง นี่ส้มเองนะคะ ที่ขับรถชนท้ายคุณหญิงน่ะค่ะ ”

หญิงสาวปรายตาไปที่นาฬิกาจะตีสองอยู่แล้ว โทรมาทำไม แต่เธอไม่จำเป็นต้องเอ่ยปากถามเพราะอีกฝ่ายก็พูดออกมารัวเร็วเลยว่า

“ ส้มต้องขอโทษคุณหญิงด้วยนะคะ ที่แสดงกิริยาไม่ดีออกไปตอนนั้น ส้มกำลังหงุดหงิดเรื่องงานนะค่ะ เลยไม่ทันระวัง ”

“ ไม่เป็นไรคะ คุณรบก็บอกจะรับผิดชอบทุกอย่างอยู่แล้ว ”

“ ก็นี่ล่ะค่ะ ที่ส้มวิตก อยากจะรบกวนคุณหญิงสักอย่าง ”

“ อะไรคะ? ”

“ คือส้มหารถรุ่นเดียวกับคุณหญิงให้ไม่ทัน คุณหญิงช่วยบอกพี่รบได้ไหมคะว่า ได้คุยกับส้มแล้วและตกลงเอาอย่างที่ส้มจะส่งไป ถ้าคุณหญิงไม่รับรอง พี่รบเอาส้มตายเลยค่ะ ”

“ ได้ค่ะ ”

“ ขอบคุณมากค่ะ ส้มไม่รบกวนแล้ว แค่นี้ค่ะ ”

ม.ร.ว. ศีตลา มองโทรศัพท์งง ๆ ผู้หญิงคนนี้รู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอได้ยังไง และโทรมาหาด้วยเรื่องแค่นี้เองเหรอ เห็นท่าทางก็ดูเหมือนจะสนิทสนมกันดี แต่เป็นไปได้ไงที่จะกลัวเกรงโรมรันถึงขนาดนั้น แต่ก็นั่นแหละ เรื่องส่วนตัวของเขาโดยเฉพาะเกี่ยวกับผู้หญิง เธอเองก็รู้น้อยมาก เพราะหากคุณสรวงสุดาไม่พูดถึง เธอก็ไม่เคยสนใจ และคุณสรวงสุดาก็เอ่ยถึงเขาน้อยครั้งเสียด้วยสิ

ม.ร.ว.ศีตลาปิดไฟที่หัวเตียง แต่ตีสองกว่า ๆ เธอยังนอนไม่หลับจึงตัดสินใจลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุมมาสวม เดินออกจากห้อง มันเป็นสิ่งที่เธอทำบ่อย ๆ เวลานอนไม่หลับ หรือตื่นขึ้นมากลางดึก หากไม่ลงมาหาอะไรอ่าน ก็มานั่งทำงานที่ห้องสมุด บางทีก็ทำจนถึงเช้า หรือไม่ก็หลับในห้องสมุดนี่เลย

เมื่อเปิดประตูเข้าไป มีแสงสลัวจากโคมไฟด้านโซฟาที่มีประตูเปิดออกไประเบียงด้านนอก เมื่อเดินไปใกล้ ก็เห็นโรมรันนอนเหยียดยาวบนโซฟา ท่าทางจะเมาจนหลับเพราะมีขวดเหล้าวางอยู่ข้างๆ เธอไม่รู้ว่าโรมรันเป็นคนดื่มจัดหรือเปล่า? แต่ทุกครั้งที่เขามาที่บ้านก็เห็นเขาดื่มประจำ แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือเขาไม่สูบบุหรี่

นอกจากห้องส่วนตัวของเขาแล้ว ห้องสมุดก็เป็นสถานที่หนึ่งในคฤหาสน์เทวัญที่เธอเห็นโรมรันเข้ามาบ่อยๆ เมื่อก่อนมันเป็นสถานที่ที่เธอเห็นเขากับท่านพ่อเข้ามาพูดคุย และเล่นหมากรุกกัน บางครั้งก็จะตั้งวงดื่มที่ระเบียงด้านนอก แม้เธอกับคุณสรวงสุดาจะได้เข้าร่วมวงด้วย แต่ในตอนนั้นเธอก็คิดว่าท่านพ่อโปรดเขาเอามากๆ ทั้งๆ ที่ท่าทางของโรมรันดูแข็งกระด้างในสายตาเธอ เธอคิดว่าเขาควรจะอ่อนน้อมกับท่านพ่อของเธอมากกว่าที่เป็นอยู่ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอไม่ชอบหน้าเขา แล้วดูเอาเถอะตอนนี้ทุกครั้งที่มาค้าง เขาถือเอาห้องสมุด อันเป็นที่เธอถือว่าเป็นที่ส่วนตัวของเธอ เป็นที่ดื่มเหล้าประจำไปเสียแล้ว

แล้วนี่เธอจะปล่อยให้เขานอนต่อไปถึงเช้า หรือจะปลุกดี

แต่แล้วคำพูดที่ว่า “ จำไว้เวลาฉันนอน ใครก็ไม่ต้องมาปลุก เดี๋ยวเจ็บตัว ” ทำให้เธอตัดสินใจที่จะลอง ทำบางอย่าง

อยากได้อะไรจากผม จำไม่ได้เหรอว่าต้องทำยังไง

หญิงสาวย่องกริบไปใกล้ แต่เพียงแค่เอื้อมมือไปที่ใบหน้าเขา เธอก็ถูกกระชากลงไปล้มทับเขาบนโซฟา และเมื่อโรมรันพลิกตัวหมายกลับจะอยู่ด้านบน ความแคบทำให้ทั้งคู่ตกลงมา หญิงสาวถึงกับจุกเมื่อแผ่นหลังกระทบกับพื้นพรม ร่างแข็งแรงของโรมรันยังทาบทับอยู่ ลำคอเธอถูกบีบรัดจนหายใจไม่ออก

“ ปัทโธ่... คุณหญิง ” กำปั้นในมือที่ยกขึ้นของโรมรันถูกเบนไปกระแทกที่โซฟาแทน มือที่บีบคอคลายออก

“ ผมเคยบอกแล้วไง เวลานอนอย่ามาใกล้ เจ็บไหม ? ”

หญิงสาวนอนทำตาปริบ ๆ มองหน้าที่ลอยอยู่ตรงหน้า พูดไม่ออก แล้วโรมรันใช้สองมือรองรับน้ำหนักตัวเองเอาไว้ และก็ทำในสิ่งที่เธอคิดไม่ถึงและอดจะขำไม่ได้ เมื่อเขาใช้จมูกดมฟุตฟิตไปทั่วไปหน้าเธอ

“ คุณหญิงเปลี่ยนน้ำหอมนี่นา ผมถึงผิดกลิ่น ขำอะไร ”

เขาถามมองเธอด้วยสายตาลึกล้ำ

“ ก็ คุณรบทำตลกนี่ ”

“ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนว่าผมตลกเลยนะคุณหญิง ”

“ ก็พูดไปแล้ว คุณจะทำไม ”

ใบหน้าทั้งคู่ห่างกันแค่คืบ นัยน์ตาหญิงสาวเปล่งประกายยั่วยวน ถามแผ่วเบาว่า

“ ดิฉันพูดผิดอีกแล้วใช่ไหม ? ”

โรมรัน มองริมฝีปากอวบอิ่มที่ห่างเขาไม่ถึงคืบ แล้วถอนหายใจ

“ มาก ๆ ด้วย ”

เมื่อใบหน้าเขาก้มต่ำริมฝีปากอุ่น ๆ แตะลงมา หญิงสาวเผยอปากรับอย่างไม่รู้ตัว ลิ้นของเขายังกรุ่นด้วยกลิ่นบรั่นดี ยามเมื่อมันชอนใชไปทั่วปาก ก็สร้างความหวิวสะท้านไปทั้งตัว แม้จะบอกกับตัวเองว่า เธอทำไปเพราะอะไร แต่ หญิงสาวก็ยากที่จะห้ามใจตัวเองไม่ให้ตอบรับและสนองเขาอย่างง่ายดายและคุ้นเคย

โรมรันรับรู้การตอบสนองของเธอ มันทำให้เขาย่ามใจ และปล่อยตัวเองให้ตกอยู่กับอารมณ์อันรุ่มร้อนเป็นนาน กว่าจะตัดใจพลิกตัวออกนอนหงายข้าง ๆ แล้วถอนใจยาว เขาไม่ควรจะปล่อยให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่มันก็ยากที่จะอดใจไว้ มีหรือเขาจะไม่รู้ว่าคุณหญิงต้องการอะไร

“ คุณหญิงมีอะไรว่ามา ”

ม.ร.ว. ศีตลา ลุกขึ้นนั่งคุกเข่าข้าง ๆ ทอดสายตามองชายหนุ่มที่นอนเอามือรองศีรษะมองตอบเธอด้วยสายตาว่างเปล่าไร้อารมณ์ ไม่น่าเชื่อ ที่เมื่อครู่ เขาจะจูบเธอได้อย่างเร่าร้อน แล้วกลับมาทำเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ก็นี่ละโรมรัน เขาอดกลั้นได้เสมอ และเธอก็ไม่ควรจะแพ้เขาในเรื่องนี้ หญิงสาวลูบคอตัวเอง พูดเบา ๆ ว่า

“ คุณรบบีบคอแทบหายใจไม่ออก ”

“ ผ่านตอนนี้ไปเลย ” เขาพูดอย่างรู้ทัน

“ เรื่องหุ้นโรงแรมเพริ์ล โอนกลับมาให้ดิฉันได้ไหม ? ”

โรมรันหัวเราะในลำคอ ก่อนจะพูดว่า

“ คิดอยู่แล้วเชียว จูบคุณหญิงราคาแพงเป็นบ้า ”

“ แพงที่ไหนกัน อะไรก็ตามที่ท่านพ่อยกให้คุณรบ จะโอนคืนให้ดิฉันหมด เคยพูดอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ ”

“ ผมนี่โง่จัง ”

“ ไม่โง่หรอก เพราะคุณรบไม่อยากได้สักหน่อย ”

“ความจริงมีอยู่อย่าง ... ไม่อยากคืนหรอก แต่กลัวคุณหญิงร้องไห้แง เลยต้องคืนทั้งหมด อยากรู้ไหมอะไร?”

“ ไม่ ” หญิงสาวตอบโดยไม่คิด

โรมรันนิ่งมองเธอเฉย ๆ ไม่พูด

“ ว่าไง จะโอนให้เมื่อไหร่?” เธอถามย้ำ

“ มีข้อหนึ่ง ที่ผมกังวลใจ ”

“ อะไร? ”

“ เรื่อง แฟนคุณหญิง ”

ม.ร.ว.ศีตลา นิ่วหน้า

“ โรเจอร์มาเกี่ยวอะไร ”

ชื่อของโรเจอร์ที่ออกจากปากหญิงสาวอย่างง่ายดาย ทำให้โรมรันเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นในใจ เพราะดูเหมือนกันเธอยอมรับในความสัมพันธ์เป็นแฟนของโรเจอร์แล้วจริงๆ

“ ดูเหมือนทุกคนยกเว้นป้าศศิวิมล จะยกเป็นความผิดของผมนะ ถ้าคุณหญิงมีแฟนเป็นฝรั่ง ”

“ ไม่เกี่ยวกันเลย ”

“ ก็รู้หรอกว่าไม่เกี่ยว และก็ไม่อยากยุ่งด้วย ” เสียงเขาราบเรียบ “ แต่ ให้คุณหญิงมั่นใจว่ารักเขาจริง ๆ ค่อยแต่งได้ไหม ? ”

สายตาหญิงสาววะวับขึ้นด้วยความรู้สึกอย่างหนึ่ง ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่า เขาไม่เคยอยากจะยุ่งเกี่ยวกับเธอ ถ้าไม่มีเหตุให้ต้องยุ่ง คำตอบจึงหนักแน่นนักเมื่อพูด

“ ได้ ”

“ ทำไมรับปากง่ายจัง ”

“ ดิฉันไม่ใช่คนเรื่องมากเหมือนคุณนี่ จะโอนหุ้นให้เมื่อไหร่ ? ”

“ ผมรับปากคุณหญิงแล้วเหรอ ? ” เขาแกล้งย้อน

ม.ร.ว. ศีตลาชะงัก

“ ชักสงสัยแล้วสิ คุณหญิงทำอย่างนี้กับผู้ชายทุกครั้งที่อยากได้อะไรหรือเปล่า ”

ฝ่ามือของ ม.ร.ว. ศีตลา ตบไปที่แก้มชายหนุ่มเบา ๆ

“ คุณสอนเรื่องนี้ให้ดิฉันเอง แล้วไม่ต้องมาสงสัยว่าดิฉันจะเอาไปทำกับใคร ไม่ใช่เรื่องของคุณเข้าใจไหม ? ”

โรมรันจับมือที่ตบเขาบีบ ถามดุ ๆ ว่า

“ กับผมคนเดียวหรือมีคนอื่นด้วย ”

ม.ร.ว. ศีตลาฟังน้ำเสียงเขาแล้วรู้สึกแปลก ๆ ไม่กล้าพอที่จะพูดประชดเขา

“ ตอนนี้มีคุณคนเดียวที่มีสิ่งที่ดิฉัน ต้องการเอาคืน ”

ชายหนุ่มถอนใจ เตือนว่า

“ ต่อไปอย่าใช้วิธีนี้กับผมอีกนะ เดี๋ยว ...จะออกมาไม่สวย ”

“ รู้หรอกน่า ไม่มีอะไรจะให้เอาแล้วนี่ ”

โรมรันยิ้มกับน้ำเสียงสะบัด ๆ นั้น

“ แล้วจะให้นายพงษ์พันธ์จัดการให้ คุณหญิงขึ้นนอนเถอะ ”

ม.ร.ว. ศีตลา ลุกขึ้น แต่เพราะคุกเข่าอยู่นานทำให้เธอเสียหลัก ล้มทับไปที่เขา โรมรันกอดหญิงสาวไว้แน่น หัวเราะหึ ๆ พูดว่า

“ เอะ เตือนอยู่หยก ๆ ให้ท่าอย่างนี้ เอาอีกสักทีดีไหมนี่ ”

“ ก็ลองจูบอีกสิ จะเอาให้หมดตัวเลย ”

โรมรันผลักเธอออก

“ ผู้หญิงอะไร เห็นแก่เงิน ”

กำปั้นหญิงสาวเหวี่ยงพลั่กที่หน้าอกเขาอย่างแรง ก่อนผลุดลุกขึ้น

“ พูดจาระวังหน่อย โรมรัน ”

ถ้าจะคว้าเอาไว้ ก็ไม่พ้นมือแน่ แต่โรมรันก็เลือกที่จะนอนนิ่งปล่อยให้เธอเดินจากไปเสียเฉย ๆ ไม่โต้ตอบ บางครั้งเขาเกือบจะรู้สึกเหมือนกับว่า เขาและคุณหญิง ดูจะรู้ทันและเข้ากันได้ แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างมาเหนี่ยวรั้งเอาไว้ ไม่ให้แสดงความรู้สึกทั้งหมดออกมา โรมรันไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร

แต่ที่เขาไม่ชอบเอามาก ๆ ก็คือ

เธอกล้าเล่นกับความรู้สึกของเขา

สิ่งใดที่เธอต้องการจากเขา เธอกล้าทุ่มทั้งตัว เหมือนรู้ดีว่า เขาไม่กล้าที่จะทำอะไรให้เกินเลยไปกว่านั้น ซึ่งเธอก็เข้าใจถูก เขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นแน่ หากไม่มีความรู้สึกอย่างหนึ่งเป็นตัวเชื่อม

ความรัก ... โรมรันยักไหล่ให้กับคำนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับคุณหญิงศีตลาเมื่อครู่ มันจะต้องผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจกันดีทั้งคู่

แล้วสายตาของเขาเหลือบขึ้นไปมองสบสายท่านชายที่เหมือนจะยิ้มเยาะถามอยู่ในที

กล้าพอที่จะรักลูกสาวฉันไหมละ โรมรัน ?

“ นี่ใช่ไหมคือคำถามที่ท่านอยากถามจริง ๆ ให้ตาย ... ผมเกลียดคำถามนี่จริง ๆ ” ชายหนุ่มพึมพำออกมาก่อนจะลุกขึ้นเดินกลับไปที่ห้องของตัวเอง

 

หากโรมรันจะคิดว่ารู้อยู่แก่ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่มันจะผ่านไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ม.ร.ว.ศีตลา เองก็พยายามที่จะย้ำบอกกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่า แล้วมันก็จะผ่านไป เพราะโรมรันไม่เคยมีความรู้สึกพิเศษอย่างใดกับเธอเลย เขาคงไม่คิดจะเก็บมาใส่ใจ แต่เธอโมโหตัวเองที่ยังอยากจะรู้ชัดๆ ว่า

ทำไมเขาถึงได้ยื่นเงื่อนไขอย่างนี้ให้เธอ?

เขารู้สึกอย่างไรกับการที่ทำอย่างนี้กับเธอ?

เขาเพียงแต่ต้องการแกล้งเธอเท่านั้นหรือ?

เธอไม่เคยคิดว่าโรมรันหวังจะหากำไรจากเรือนร่างเธอ เพราะลึกๆ แล้วเธอเชื่อมั่นว่าโรมรันเป็นสุภาพบุรุษพอ และเธอเชื่อว่า เขา หยุดตัวเองได้

รึมันเป็นสาเหตุที่คิดว่าเขาเป็นอย่างนี้ละมัง ใจมันจึงคิดอยากลองยั่วเขาว่า จะแน่สักแค่ไหน?

แล้วอ้างเอาว่า เพราะเขาท้าทายเธอ

แล้วผลออกมาเป็นไงล่ะ?

แม้เขาจะตอบรับคืนหุ้นให้เธอ แต่ลึกๆ แล้วเธอรู้ว่า เขาชนะอีกจนได้

******

“ ตื่นสายนักละรบ ” คุณสรวงสุดาทักลูกชาย ที่เพิ่งจะเดินมาที่โต๊ะอาหาราเช้าเอาตอนแปดโมง

“ ไม่ได้รีบไปไหนนี่ครับ ” เขาตอบแล้วไปนั่งตรงข้าม ม.ร.ว. ศีตลา ที่ดูภูมิฐานในชุดสูทสีเทาพร้อมออกไปทำงาน

“ ป้าชมมีคนเอารถมาส่งผมแล้วยัง ”

“ มาแล้วค่ะ ซีตรองสีเงินสวยเชียวค่ะ ”

โรมรันขมวดคิ้ว หน้าขรึม หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

“ ถ้าจะโทรไปเรื่องรถ ไม่ต้องนะ ดิฉันให้เปลี่ยนเอง ” ม.ร.ว. ศีตลาบอก

ชายหนุ่มมองหน้า

“ มาเปลี่ยนคำสั่งผมทำไม ”

“ ก็เขาโทรมา บอกว่าหาให้ตามใจคุณไม่ทัน ”

“ เจอหลอกแล้วคุณหญิง บริษัทแฟนมันนำเข้ามาเองรุ่นนี้ ผมจะสั่งเขาอย่างนั้นทำไม ถ้าไม่คิดว่าเขาทำได้ ”

“ ก็แล้วคุณรบจะเอาไง ” หญิงสาวรวนขึ้นมาเสียเฉย ๆ

“ ผมจะไปเอาอะไร ก็แค่ กะจะให้คุณหญิงได้รถใหม่เร็ว ๆ ไม่ต้องรอเท่านั้น ทำเสียเองก็แล้วไปเถอะ ป้าชม ผมขอกาแฟ ” ตอนท้ายเขาหันไปบอกนางชมนาดเฉย

คุณสรวงสุดา มองทั้งคู่ที่โต้แย้งกันไปมา นิ่ง ๆ อย่างสงสัย

“ มีอะไรกันอีกล่ะ ? ”

“ ไม่มีอะไรค่ะ แค่รถหญิงถูกชนท้ายอีกแค่นั้นเอง ” ม.ร.ว. ศีตลา ตอบ

“ ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้ว ” โรมรันบอกเสียงขุ่น ๆ

คุณสรวงสุดา มองทั้งคู่สลับกันไปมา

“ ก็ดีแล้ว งานเลี้ยงเมื่อคืนเป็นยังไงบ้าง คุณหญิงอัมพรบ่นไหมที่น้าไม่ได้ไป ”

“ ไม่ว่าไงค่ะ เพราะหญิงบอกว่าคุณน้าไม่ค่อยสบาย เลยฝากให้หายป่วยเร็ว ๆ ” ม.ร.ว.สาวตอบแล้วลุกขึ้น เดินไปเอาจมูกชนแก้มคุณสรวงสุดาพูดว่า

“ หญิงไปทำงานก่อนนะคะ ”

“ เดี๋ยวออกไปพร้อมกันคุณหญิง ผมจะใช้รถเหมือนกัน ” โรมรันรีบบอก

“ มันสายแล้ว คุณขับเบนซ์ออกไปก็แล้วกัน เอาไปเข้าอู่ให้ด้วย ”

“ มันเรื่อง ผม ... ”

“ รบเอาบีเอ็มคันเก่าแม่ ไปก็ได้ แค่แวะส่งแม่ที่ประชุมหน่อยเท่านั้น ” คุณสรวงสุดาหย่าศึกเรื่องรถ เสียก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันไปอีก

หญิงสาวยิ้ม มองเขาอย่างผู้ชนะ ก่อนจะผละออกไป โรมรันได้แต่หรี่ตามองตามด้วยความหมั่นไส้ หันกลับมาก็เจอสายตาผู้เป็นมารดามองอยู่ ชายหนุ่มวางหน้าเฉยเปลี่ยนเรื่องถามว่า

“คุณแม่ไปที่เกาะสวรรค์บ่อยไหมครับ”

“ ก็เคยสองสามหน ธรรมชาติสวยมาก แต่โรงแรมค่อนข้างจะเก่า หญิงเขาสั่งปิดปรับปรุงกะว่าอีกเดือนสองเดือนจะเปิดตัวฉลอง ”

“ แถวนั้นมีเรือโดยสารเข้าออกเยอะไหมครับ ผมหมายถึงเรือพวกชาวบ้าน ไม่ใช่เรือลำใหญ่ขนาด เรือเฟอรี่ ”

คุณสรวงสุดา มองหน้าโรมรัน เพราะสงสัยว่าเขาถามไปทำไม

“ มีเรือยนตร์รับจ้างจากฝั่งไปเยอะนะ เพราะใช้เวลาแค่สองชั่วโมงเอง แล้วแถวนั้น เกาะแก่งก็เยอะ มีคนไปเช่าเรือออกเที่ยวบ่อย ๆ ”

“คุณแม่เคยได้ยินชื่อเกาะคนแคระ ที่อยู่แถว ๆ นั้นไหมครับ ”

คุณสรวงสุดานึกทบทวนแล้วก็ตอบว่า

“ เกาะคนแคระแม่ไม่เคยได้ยินนะ แต่มีอยู่เกาะหนึ่งที่เขาเรียกว่า เกาะเตี้ยไม่รู้จะเป็นเกาะเดียวกันหรือเปล่า ”

ท่าทางโรมรันกระตือรือร้นขึ้นมาทีเดียว เมื่อถามว่า

“ มันอยู่ตรงไหน คุณแม่รู้ไหมครับ ” เมื่อเห็นท่าทางมารดายังงง ๆ เขาก็เสริมต่อว่า

“ ลองนึกเอาเกาะสวรรค์เป็นศูนย์กลางนะครับ แล้วมองภาพว่ามันอยู่ทางทิศไหน ห่างออกไปประมาณเท่าไหร่ หรือว่าใกล้กับเกาะอะไรที่เด่น ๆ ”

คุณสรวงสุดามองหน้าเขา

“แม่จำไม่ได้ รบอยากรู้ไปทำไม ”

“ ความลับของทางราชการครับ ” โรมรันตอบยิ้ม ๆ

“ อยากรู้รายละเอียดมากกว่านี้ ก็ถามหญิงเขาดูสิ ขานั้นลุยเสียทุกเกาะแล้ว ”

“ คุณหญิงศีตลานะเหรอ ? ” เสียงโรมรันไม่คอยจะเชื่อถือนัก

“ ก็ใช่นะสิ คิดว่าแม่เลี้ยงเขาไว้เป็นไข่ในหินรึไง ? ”

“ ไม่หรอกครับ เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวขนาดนั้น ”

คุณสรวงสุดามองหน้าลูกชายอย่างตำหนิ

“ หญิงเขาเป็นคนตรงไปตรงมา รบ อย่ามองในแง่อื่น ”

“ ก็คุณแม่ไม่เคยเห็นตอนอยู่กับผมลับหลังคุณแม่นี่ครับ ”

“ ทำไม มีอะไรกันลับหลังที่แม่ไม่รู้เหรอ ”

น้ำเสียงคาดคั้นของมารดา ทำให้โรมรันชักอึดอัด

“ ว่าไง ” มารดาถามย้ำ

“ โอ้ย มากมายจาระไนไม่ไหวหรอกครับ ” โรมรันตอบเป็นเล่น ลุกขึ้นยืน

“ ไหนบอกว่าไม่รีบ ” คุณสรวงสุดาท้วงอย่างสงสัย

“ จะเอารถไปเข้าอู่ให้คุณหญิงก่อนครับ ”

“ ทำไมขับชนท้ายรถหญิง เมาเหรอ ? ”

“ ผมไม่ได้ขับเองครับ ”

มารดาเม้มปาก มองหน้าเขาอย่างพิจารณา หญิงศีตลาหวงรถแค่ไหนทำไมเธอจะไม่รู้ นี่ขนาดให้คนอื่นขับรถชนท้ายเธอทั้งสองครั้งไม่ควันออกหูเลยเรอะ แต่งั้นก็เถอะ ท่าทางของ ม.ร.ว.ศีตลา เมื่อครู่ ก็ดูจะไม่มีอะไรขัดเคืองใจเท่าไร? มีอะไรที่สองคนนี่ทำลับหลังเธอเหรอ?

แม้คุณสรวงสุดาจะสงสัย แต่ที่พูดออกมาก็เพียง

“ ถึงงั้นก็เถอะ อย่าดื่มมันมากนะเหล้าน่ะ ”

โรมรันยิ้มนึกขำ ไม่คิดว่ามารดาจะเตือนเขาอย่างนี้

“ ไม่ว่างไม่ดื่มหรอกครับ ”

“ เดี๋ยวรบ แม่เกือบลืม เอาที่อยู่ของฟ้าให้แม่ด้วยนะ ”

คราวนี้โรมรันมองมารดาอย่างแปลกใจ

“ ผมจำไม่ค่อยได้ เพราะฟ้าเขาเปลี่ยนที่พักบ่อย ถ้าไงจะเขียนให้คุณแม่วันหลังนะครับ ”

โรมรันออกไปแล้ว คุณสรวงสุดา ก็หันมาทางนางชมนาด

“ เมื่อคืนสองคนมาถึงดึกไหม ? ”

“ ประมาณตีหนึ่งค่ะ มาถึงต่างก็แยกย้ายกันขึ้นห้องใครห้องมันเลย ”

คุณสรวงสุดาถอนหายใจ

“ป้าชมว่านายรบคิดยังไงกับ คุณหญิง ”

“ คงยังตัดสินใจยังไม่ถูกมังคะ ถึงได้โกรธ ๆ หวง ๆ อยู่อย่างนี้ ”

“ ดูท่า ป้าชมจะรู้เรื่องสองคนนี้ดีกว่าฉันอีกนะ ”

“ ก็ ดิฉันก็เห็นเขาเป็นอย่างนี้ มาตั้งแต่เด็กแล้ว ”

“ แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เขาจะลงเอยกันเสียที ” คุณสรวงสุดาบ่น “ ท่านย่า ก็ตึง ๆ กับฉันอยู่หาว่าปล่อยหญิงเขาเกินไป หญิงนี่ก็ชักจะรั้นขึ้นทุกวัน ตอนเด็ก ๆ ก็ติดเราแจ มาตอนนี้สิพูดอะไรก็ไม่ฟัง แถมดื้อเงียบอีก เรื่องแฟนฝรั่งของเขานี่ก็ไม่รู้จะห้ามได้หรือเปล่า จะหวังพึ่งตารบก็ไม่ค่อยจะเป็นใจเสียเลย ไม่รู้งานการอะไรกันนักกันหนา เจอหน้ากันที่ไรเป็นต้องมีเรื่องขัดคอกันอยู่เรื่อย ความจริงถ้าไม่ติดที่ท่านชายสั่งเอาไว้ ฉันเองก็ชอบเหมือนกันนะ มิสเตอร์โรเจอร์คนนี้ เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงคนไหนได้แต่งงานด้วยรับรองสบายไปแปดชาติ ยิ้มทำไมป้าชม คิดว่าฉันเห็นแก่เงินรึไง ? ”

นางชมนาดยิ้ม ตอบว่า

“ ดิฉันกำลังคิดว่า ถ้าย้อนหลังไปสักยี่สิบสามสิบปี สงสัยคุณหญิงศีตลาต้องเจอคู่แข่งที่น่ากลัวแล้วละค่ะ ”

“ จะบอกว่าฉันแก่ทางอ้อมละสิ ” คุณสรวงสุดาประชดใส่ แล้วถอนใจยาว “ ทำยังไงนะ นายรบเขาถึงจะมีเวลาอยู่กับหญิงศีตลาบ่อย ๆ ”

“ ก็ทำไมคุณหญิง ไม่สั่งให้คุณรบมาพักเสียที่นี่ละคะ ”

“ ขานั้น สั่งเขาไม่ได้หรอก เขาอยากมาถึงมา อีกอย่างเดี๋ยวหญิงเขาจะหาว่าเราบีบคั้นเขาเรื่องนายรบ จะยิ่งรั้นเข้าไปใหญ่ ”

“ ถ้าคุณรบเอาจริง ก็เอาอยู่หรอกค่ะ ”

“ ก็นั่นนะสิ แต่ทำไมไม่เอาจริงเสียทีนะ รึเขาจะมีผู้หญิงอื่นอยู่แล้ว วันนั้นหญิงเขาก็แย้ม ๆ อยู่นะ ฉันก็ลืมซักไซ้ แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ยังไง ๆ ฉันก็จะทำทุกอย่างให้คู่นี้ลงเอยกันให้ได้ ”

คุณหญิงสรวงสุดา พูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นจริงจังในตอนท้าย

นางชมนาดก็ได้แต่นึก ไม่อยากให้คุณสรวงสุดาเข้าไปยุ่งเกี่ยวมากนัก เพราะรู้นิสัยของทั้งคุ่ดี ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องระหว่างพวกเขา ตอนเด็กเมื่อโรมรันมาที่คฤหาสน์เทวัญใหม่ ๆ คุณหญิงศีตลาเป็นฝ่ายตื่นเต้นดีใจ ที่ได้พบ คอยเดินตามต้อย ๆ แม้ว่าอีกฝ่าย จะไม่สนใจ หรือบางทียังดุเอาเจ็บ ๆ แต่เมือถูกเมินเฉยเอามาก ๆ คุณหญิงก็เป็นฝ่ายถือตัวบ้าง ไม่ยอมลงให้อีกฝ่ายเหมือนเดิม และยิ่งของรักถูกทำลายก็ยิ่งโกรธ ยังโต้กลับไปตามประสาคนเอาแต่ใจตัวเองบ้างเหมือนกัน ตอนนั้นบ้านจึงเหมือนกับมีคนเอาแต่ตัวเองสองคนอยู่ด้วยกัน เพียงแต่โรมรันโตกว่า และรู้วิธีทำให้อีกฝ่ายมีโทสะได้มากกว่า ขณะที่คุณหญิงก็ซ่อนความเฉลียวฉลาด และวาจา เชือดเฉือนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าที่เฉยเมย หยามเหยียดอีกฝ่ายให้มีโทสะเล่นเหมือนกัน และที่สำคัญมันจะแสดงออกเมื่อทั้งคู่อยู่ด้วยกันตามลำพังเท่านั้น หากอยู่ต่อหน้าคนอื่น ก็เห็นในลักษณะต่างคนต่างเฉย สุภาพใส่กันอย่างที่สุด เพราะประโยคท้าทายใส่หน้าของโรมรันที่ว่า

“ ถ้าแน่จริงก็อย่าฟ้องสิ ”

คุณหญิงก็ใจเด็ด ไม่ว่าโรมรันจะทำอะไรก็ไม่เอ่ยปากฟ้องใคร ไม่ร้องไห้ให้ใครเห็น แต่ก็เก็บความโกรธเอาไว้ในใจ

“ ไม่แฟร์เลยนะคุณรบ คุณหญิงอายุน้อยกว่าคุณตั้งเยอะ ” เธอเคยพูดให้โรมรัน แต่เขากลับตอบมาอย่างอารมณ์ดีว่า

“ โธ่ป้าชมครับ นั่นแม่มดร้อยปีในคราบเด็กน่ารักนะครับนั่น ”

ก็ทำเอาเธอเองก็ไม่แน่ใจว่า โรมรันรุ้สึกอย่างไรกับ คุณหญิงศีตลาแน่ ยิ่งโตเป็นหนุ่มก็ดูเหมือนจะดูยากขึ้นเท่านั้น แล้วมันก็แสดงให้ทุกคนงุนงง และมั่นใจในความรุ้สึกที่ว่า โรมรันไม่ได้รักคุณหญิง ก็ตอนที่ เขาหย่าทันที ที่จดทะเบียนกับคุณหญิงเสร็จ แม้ว่าการหย่านั้น มันจะสมบูรณ์หรือไม่ อยู่ที่การตัดสินใจของ คุณหญิงศีตลาก็ตาม

มีสิ่งเดียวที่นางชมนาดมั่นใจก็คือ ท่านชายเป็นคนฉลาด ท่านคงไม่เขียนพินัยกรรมเอาไว้เช่นนั้นแน่ ถ้าไม่รู้ซึ้งถึงจิตใจของหนุ่มสาวทั้งคู่ ก็เป็นหน้าที่ของคุณสรวงสุดาละ ที่จะทำให้ทั้งคู่ เผยจิตใจตัวเองออกมาได้ แต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะคุณสรวงสุดาไม่ค่อยจะละเอียดอ่อนในเรืองนี้สักเท่าใด และก็เป็นคนไม่สนวิธีการเสียด้วยสิ ถ้าผลลัพธ์มันจะออกมาอย่างที่เธอต้องการ คือ ทั้งคู่ต้องแต่งงานกันอีกครั้งให้ได้

:+:+:+:+:+:

 

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบรูณ์ ในรูปแบบ E-book แล้ว
สนใจ
คลิก


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย ฟีลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.