forwriter.com
 
นวนิยายรักโรแมนติก

 


ดั่งไฟรัก

โดย ฟีลิปดา

 

 

ห้องทำงานของ ม.ร.ว. ศีตลาอยู่ที่ชั้นสิบ โรมรันออกจากลิฟท์ก็เดินไปด้านที่มีโต๊ะทำงานตั้งอยู่ เขามองไม่เห็นใคร แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ สตรีนางหนึ่งก็โผล่ขึ้นมาจากใต้โต๊ะ

“ อุ๊ย ! ... ” หล่อนส่งเสียงตกใจเมื่อเห็นเขา

“ คุณหญิง อยู่ไหม ? ”

สายตาเจ้าหล่อนกวาดไปทั่วร่างเขาอย่างรวดเร็ว ไอ้เสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ง่าย ๆ ของเขาที่ละมัง ทำให้เธอไม่คิดเลยที่จะตอบว่า

“ ไม่อยู่ค่ะ ”

“ ไปไหน ก็นัดผมมานี่นา ”

รอยยิ้มอย่างรู้ทัน ผุดขึ้นมาบนใบหน้าที่แต่งจัดนั้น

“ คงรอไม่ไหวมังคะ ออกไปเมื่อสิบนาทีนี่เอง ”

โรมรันขมวดคิ้ว มองหน้าก็รู้ละว่าโกหก หน้าห้องคุณหญิงศีตลานี่ไม่เบาเลย มีบางอย่างที่เขาสะกิดใจ เมื่อเปรียบเทียบกับเสื้อผ้าที่คงเป็นเครื่องแบบที่เรียบง่ายนั้น ... ผู้หญิงคนนี้ แต่งหน้าเหมือนจะปกปิดตัวเอง

“ ต่อโทรศัพท์คุณหญิงให้ผมซิ ” เขาสั่ง

“ ไม่มีเบอร์คุณหญิงเหรอคะ ” เธอย้อน

“ ผมไม่ได้มาตามจีบเจ้านายคุณนี่ จะได้จำเบอร์เอาไว้ ”

แล้วประตูห้องก็เปิดผัวะ พงษ์พันธ์เดินออกมา เขาชะงักเมื่อเห็นโรมรัน

“ อ้าว ... มาทำอะไรที่นี่ ” โรมรันทักขึ้นก่อน

“ คุณหญิงโทรไปเรียกมาครับ ”

“ เรื่องอะไร ... ” ถามแล้วก็ชะงัก ส่ายหัวเพราะนึกได้ ม.ร.ว.ศีตลานี่ไวจริง ๆ แค่คุยกับเขาเมื่อคืนเช้านี้ก็เรียกพงษ์พันธ์มาเสียแล้ว

“ พี่รบมาพอดี จะเซ็นเลยไหมครับ ” พงษ์พันธ์แกล้งถามยิ้ม ๆ

โรมรันมองตาขุ่น ถามกลับว่า

“ อยู่ข้างในใช่ไหม ? ”

โดยไม่รอคำตอบโรมรันเดินไปที่ประตู ทันที หน้าห้องสาวทำท่าจะไปขวาง พงษ์พันธ์เลยเตือนเสียงนุ่ม ๆ แต่ได้ผลว่า

“ ระวังตกงานนะครับ ”

ม.ร.ว. ศีตลา ถึงกับเก็บอาการแปลกใจไม่อยู่เมื่อเห็นโรมรันเปิดประตูเข้ามา นอกจากจะเจอเขาที่บ้านแล้ว ก็ไม่เคยคิดว่าจะเจอเขาที่ไหนได้อีก แต่เมื่อเห็นท่าทางหน้าห้องที่ตามเข้ามาด้วยท่าทางตื่น ๆ เธอก็พยักหน้าให้ออกไปโดยไม่พูดอะไร

“ คุณรบมาทำอะไรที่นี่ ”

“ กินกาแฟมัง ” โรมรันตอบรวน ๆ ทิ้งตัวโครมลงที่โซฟา รับแขกของเธอ

ม.ร.ว. สาวยิ้ม กับท่าทางโรมรันออกจะหงุดหงิดนิด ๆ เธอกดโทรศัพท์ติดต่อสั่งกาแฟให้เขา แล้วเดินมานั่งตรงข้าม

“ คุณรบมีธุระอะไรกับดิฉันหรือเปล่า ”

“ มี ” โรมรันตอบแล้วควักโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา ยื่นให้

“ บันทึกเบอร์คุณหญิงให้ผมซิ เดี๋ยวลืม ”

หญิงสาวหัวเราะ เบา ๆ รับมาแล้วล้อว่า

“ มาขอเบอร์โทร เหรอคะ ? ”

โรมรันมองท่าทางอารมณ์ดีของเธออย่างขวางตา

“ หน้าห้องคุณหญิงทำหน้าดูถูกเชียวที่รู้ว่าผมไม่รู้เบอร์คุณหญิง ”

“ เดี๋ยว เอากาแฟเข้ามา จะให้ขอโทษคุณรบ ”

“ ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอก แต่หน้าตาเขาคุ้น ๆ นะ ผมว่าต้องเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแน่ ๆ ”

“ อยากได้ประวัติไหมคะ ” เธอล้อเล่น แต่ต้องแปลกใจที่โรมรันตอบรับว่า

“ ก็ดี มันติดอยู่ในใจไม่อยากผ่านไป ”

“ จะเอาเดี๋ยวนี้เลยไหม ? ”

“ ไม่ต้อง วันหลังก็ได้ ”

ประตูเปิดหญิงสาวที่เป็นข้อสนทนาถือถ้วยกาแฟเข้ามา สีหน้าเธอเรียบเฉย เมื่อเอามาวางตรงหน้าโรมรัน

“ นี่คุณโรมรัน มาเมื่อไหร่ ให้ผ่านเข้าได้เลยนะ ” ม.ร.ว. ศีตลาบอก

“ ค่ะ ”

“ ท่าทางไม่ชอบเสริฟกาแฟนะ ” โรมรันพูดขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้าเฉย ๆ ชายหนุ่มมองตามจนเธอเดินออกจากห้อง แต่เมื่อหันกลับมาก็สบสายตาแปลก ๆ ของ ม.ร.ว. ศีตลา

“ ไม่น่าเชื่อว่าคุณรบจะติดใจผู้หญิง จนต้องมองเหลียวหลังเลยนะ ”

“ ประเภทติดใจจนไปถ่างตาเฝ้าทั้งคืนผมก็เคยทำ”

โรมรันประชดเข้าให้ ม.ร.ว.สาวเลยโยนโทรศัพท์คืนให้เขา อย่างไม่สนใจว่าจะรับได้ไหม เดินไปที่โต๊ะทำงานตัวเอง

“ มีอะไรว่ามา จะได้ทำงานต่อ ”

โรมรันยกกาแฟขึ้นดื่ม มองใบหน้าเรียบเฉย แต่คงความเรียบเก๋ของอีกฝ่าย ที่ก้มนิด ๆ เหมือนจะอ่านอะไรบางอย่าง ท่าทางเธอเปลี่ยนเป็นเอาการเอางานทีเดียว แต่ไม่ว่าหญิงสาวจะอยู่ในบุคลิกไหน สำหรับเขาแล้วก็ยังมองเห็นความเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองและงอนหยิ่ง ๆ เอาไว้ไม่เปลี่ยนเหมือนตอนเป็นเด็กอยู่เช่นเดิม

“ จะมาชวนคุณหญิงไปเที่ยว ”

“ ไม่ว่าง ”

“ ไปเที่ยวเกาะสวรรค์ของคุณหญิง ”

“ หน้ามรสุมไม่ไป ”

“ ฝนตกโรแมนติกดีออก ”

“ ไม่สน ”

“ ไปสักสามวัน เป็นไง ? ”

“ ไม่ไป ”

“ อารมณ์เสียเรื่องอะไร ? ”

“ ไม่รู้ ... อุ๊ย ”

โรมรันหัวเราะ ปากกาในมือม.ร.ว. ศีตลาเลยปามาโดนอกเขาอย่างจัง

“ ผมแค่จะมาถามว่าคุณหญิง รู้จักเกาะคนแคระที่อยู่แถวนั้นไหม ? ” โรมรันเริ่มเข้าเรื่อง

“ ไม่รู้จัก แต่มีเกาะหนึ่งชื่อเกาะเตี้ย ” เธอตอบตรงกับคุณสรวงสุดา

“ อยู่ตรงไหน วาดให้ผมดูหน่อย ”

“ คุณรบอยากรู้ไปทำไม? ”

“ จะไปซื้อ เปิดบ่อนคาสิโน แย่งลูกค้าโรงแรมเพิร์ลของคุณหญิง ”

“ ถ้างั้น ... ไม่บอก ”

“ ถ้าให้ผมต้องจับมือมือเขียน ระวังเรื่องหุ้นคุณหญิงต้องจับมือผมเซ็นบ้างนะ ”

“ เฮอะ ... ก็ได้”

“ เอาเกาะสวรรค์เป็นศูนย์กลางนะ ” เขาสั่ง ยกถ้วยกาแฟขึ้นดื่มอีกครั้ง มองดูหญิงสาวก้มหน้าก้มตาขีดเขียนลงกระดาษ สักครู่ก็เงยหน้า

“ เอ้า ... เสร็จแล้ว ”

โรมรันลุกขึ้นเดินไปดู ภาพลายเส้นของเธอเขียนได้ไม่เลวทีเดียว

“ ถ้านั่งเรือไปจากเกาะสวรรค์ ประมาณกี่ชั่วโมง ”

“ ไม่ถึง ราวสี่สิบห้านาที ”

“ คุณหญิงเคยไปไหม ? ”

“ เคย ”

“ เป็นไง? ”

“ ก็ไม่เป็นไง ถามทำไม ?”

โรมรันมองหน้าเธอ ก่อนจะวางกระดาษลงบนโต๊ะ แล้วหยิบมือถือขึ้นมา ถ่ายรูป ปากก็ถามว่า

“ คุณหญิงเคยขึ้นเกาะไหม ? ”

“ เคยหนหนึ่ง มีแต่ภูเขาโขดหิน ไม่ค่อยมีต้นไม้ ”

“ ใครสอนคุณหญิงขับเรือ ”

“ ท่านพ่อ ”

“ ดำน้ำเป็นไหม ? ”

“ ไม่ ”

“ แล้วจะสอนให้ ”

“ ว่างไม่ตรงกันหรอก ”

โรมรันมองหน้า

“ รู้ได้ไง ? ”

ม.ร.ว. ศีตลายักไหล่ ไม่ตอบ แล้วเสียงใส ๆ ของหน้าห้องก็ดังขึ้นทางโทรศัพท์ภายในว่า

“ คุณสรวงสุดาโทรมาค่ะ ”

ม.ร.ว. ศีตลา กดสายที่กำลังกระพริบอยู่ สายตาก็มองโรมรันที่ล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบไฟแช็กขึ้นมา เปิดจ่อเข้าที่กระดาษเธอวาดให้เขาเมื่อครู่

“ หญิงค่ะ ... ค่ะ เหรอคะ ? คุณรบอยู่นี่ค่ะ ... ได้ค่ะ ... ค่ะ ...”

“ มีถังขยะไหม ? ”

หญิงสาวเพยิดหน้า ไปด้านหนึ่ง โรมรันเดินเอาเถ้ากระดาษไปทิ้งมองจนแน่ใจว่าไฟดับแล้ว เดินกลับมาก็พอดีคุณหญิงวางสาย

“ คุณแม่โทรมาทำไม? ”

“ ติดประชุมคณะกรรมการหาทุนเด็กด้อยโอกาส เกรงว่าจะไปดูเพชรไม่ได้ ให้ดิฉันไปแทน ”

โรมรันพยักหน้า ถามว่า

“ที่โรงแรมเพิร์ลของคุณหญิงได้เก็บรายชื่อแขกเข้าพักย้อนหลังไปสักปีสองปีไหม? ”

“ มีเก็บไว้ ทุกโรงแรม ถามทำไม ? ”ม.ร.ว. ศีตลาถามอย่างไม่สนใจนัก เธอเริ่มที่จะทำงานที่ค้างอยู่บ้าง

“ มีศูนย์ข้อมูลเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ดูจากที่นี่ได้เลยไหม ? ”

“ คุณรบอยากรู้ไปทำไม? ”

“ ทำไมต้องถามกลับทุกครั้งด้วยนะ ”

“ ถ้าไม่อยากตอบคำถาม ก็ไปเอาหมายศาลมา ”

“ ทำเป็นหัวหมอ ระวังจะเจอสอบบัญชี ”

ม.ร.ว.ศีตลาไหวไหล่

“ กลัวนักนี่ ”

โรมรันเดินไปเท้าแขนที่โต๊ะ โน้มตัวไปใกล้

“ คุณหญิงผมไม่ถามชวนคุยนะ ทำเป็นเล่นไปได้ อยากให้มากวนทุกวันรึไง ? ”

“ คุณก็อย่าวางท่า ใหญ่โตนักสิ หมั่นไส้ นี่มันที่ทำงานดิฉัน ”

โรมรันมองหน้าเธอนิ่ง ๆ แล้วก็พูดขึ้นว่า

“ คุณหญิงศีตลาครับ กรุณาให้ความร่วมมือกับทางราชการหน่อยครับ ”

รอยยิ้มอย่างหนึ่งผุดที่ใบหน้าของ ม.ร.ว. ศีตลา ซึ่งมันทำให้โรมรันอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้

“ รอสักครู่ ” เธอบอก

แล้วหญิงสาวก็ง่วนอยู่กับจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้า ไม่สนใจโรมรันที่นั่งลงที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานของเธอ ครู่หนึ่งก็ พูดว่า

“ ดูได้แล้วค่ะ ”

โรมรันลุกขึ้นเดินมาข้างเธอ

“ คุณหญิงถอย ซิ ” เขาสั่งกลาย ๆ

ม.ร.ว.ศีตลาเลยถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ ที่ต้องเสียเก้าอี้ทำงานให้เขา แล้วรอยยิ้มก็สว่างวาบขึ้นเมื่อมีเสียงติดต่อว่า

“ มิสเตอร์โรเจอร์ สายสองค่ะ ”

โรมรันปรายตามามองท่าทางยินดีของเธอ ก่อนจะหันไปหมกมุ่นที่หน้าจอ แล้วเขา ก็ลุกขึ้นเดินไปโทรศัพท์เป็นครู่ก็กลับมา

“ คุณหญิงจะไปร้านเพชรกี่โมง? ”

“ นัดไว้บ่ายสาม ”

โรมรันดูนาฬิกาใกล้จะเที่ยงเท่านั้นแต่เขาก็ชวนว่า

“ ออกไปตอนนี้เลยไหม ไปกินกลางวันด้วยกัน ผมเลี้ยงเอง ”

“ ไม่ค่ะ ดิฉันมีนัดกับโรเจอร์ที่ร้านอาหารข้างล่างนี่ค่ะ คุณรบจะร่วมด้วยก็ได้นะ ” เธอพูดน้ำเสียงราบเรียบธรรมดา ตีหน้าซื่อทั้ง ๆ ที่ระหว่างที่พูดโทรศัพท์กันโรเจอร์ยังอยู่ระหว่างการล่องเรืออยู่เลย แต่ก็อยากจะลบท่าทางวางโตของเขานั่นเอง

โรมรันหรี่ตามองหน้าเธอพูดว่า

“ แสดงว่าไม่สนใจคำเตือนผมเลยใช่ไหมนี่? ”

“ ก็คุณรบแค่อยากกวนโมโหดิฉันเท่านั้นเอง จะสนใจไปทำไม ”

โรมรันยิ้มนิด ๆ นึกชมที่เธอฉลาดพูดเลี่ยงออกตัวได้ง่าย ๆ ว่ามันเป็นเพราะเขาไม่คิดเอาจริง ไม่ใช่เธอไม่ฟังเขา และถ้าหากเขาจะยืนยันให้เธอทำตาม เธอก็คงจะย้อนว่า มันเรื่องอะไรของเขา เขามีสิทธิ์อะไร ซึ่งเขาก็คงตอบไม่ได้แน่ ๆ และที่สำคัญ ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่เธอจะต้องมาแคร์เขา เธอเป็นของเธออย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“ ถ้างั้น ขอยืมรถคุณหญิงหน่อย เดี๋ยวจะกลับมารับไปร้านเพชรด้วยกัน ”

“ มันเรื่อง ” เธอย้อนยักไหล่ปฏิเสธ แต่โรมรันกลับเน้นเสียงพูดว่า

“ เลือกเอาจะให้กุญแจรถผม หรือว่าจะให้ผมกินข้าวกับคุณหญิงพร้อมนายโรเจอร์นั่น ”

ม.ร.ว.ศีตลาเม้มปาก กับท่าทางขู่เข็ญกลาย ๆ ของเขา และในที่สุดก็ต้องเป็นฝ่าย ยื่นกุญแจรถให้เงียบๆ เพราะประเมินแล้วว่า ขืนโรมรันบ้านึกอยากกวนขึ้นมาจะอยู่กินกลางวันกับเธอ ก็จับไต๋เธอได้เท่านั้นเอง

ร้านเพชรที่ม.ร.ว.ศีตลา ต้องมาเลือกนั้นเป็นร้านใหญ่ตั้งเดี่ยว ๆ อยู่ บนถนนที่จอแจ หาที่จอดรถยากแต่ม.ร.ว. ศีตลาไม่เดือดร้อนเรื่องที่จอดรถ เพราะเธอมาแท๊กซี่ โรมรันไม่ได้กลับไปรับเธอตามนัดแต่อย่างใด

หญิงสาวแทบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่เมื่อเดินเข้าไปในร้านเพชร ก็เห็นโรมรันนั่งอยู่ที่ก่อนแล้ว ท่าทางเขาขะมักเขม้นก้มหน้าขีดเขียนอะไรอยู่ หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้อย่างจะเอาเรื่อง แต่ก็พอดีกับ เจ้าของร้านออกมาทักเธอพอดีว่า

“ คุณหญิงมาแล้วเหรอคะ เมื่อครู่คุณสรวงสุดาเพิ่งโทรมาถามนี่เองว่าคุณหญิงมาแล้วยัง ”

ม.ร.ว. ศีตลา เกลื่อนใบหน้าที่ไม่พอใจเมื่อครู่เป็นการยิ้มรับ

“ คุณจันทร์เตรียมเอาไว้ให้ ไม่ทราบว่ามีชุดไหนบ้างคะ ? ”

“ เชิญคุณหญิงด้านในเลยดีกว่าค่ะ ”

หญิงสาวตวัดสายตาไปยังโรมรัน เขาสบตาเธอแว่บหนึ่ง แล้วก็ก้มไปยังสิ่งที่ทำค้างอยู่ เหมือนไม่สนใจหรือไม่ได้รู้จักกัน ม.ร.ว สาวเก็บความโกรธเอาไว้ เดินตามเข้าไปในห้องรับรอง ที่ดูเป็นสัดส่วนแปลกแยกออกไปจากหน้าร้าน แต่เมื่อได้ชมความสวยงามของ อัญมณี ที่ทางร้านเตรียมเอาไว้ ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้น หญิงสาวพิจารณาสร้อยแต่ละเส้นด้วยความพิถีพิถัน ขณะที่เธอกำลังคัดเลือกอยู่นั้น พนักงานก็เข้ามาพูดว่า

“ คุณจันทร์คะ ลูกค้าที่จะสั่งทำสร้อยเพชร ให้มาถามว่า จะเสร็จภายในสองอาทิตย์ได้ไหม ? ”

“ คุณหญิงอยู่คนเดียวก่อนนะคะ ดิฉันขอออกไปดูลูกค้าหน่อย คนนี้ใจร้อนค่ะ ครั้งก่อนก็มาสั่งทำเข็มกลัดเพชรจะเอาภายในอาทิตย์เดียว ต้องเร่งให้ทันจนหายใจไม่ทัน แต่ดีหน่อยไม่เคยเกี่ยงราคา ”

ชั่วครู่คุณจันทร์เพ็ญก็กลับเข้ามา ในมือถือกระดาษเข้ามาด้วยแผ่นหนึ่ง เธอวางเอาไว้ที่โต๊ะ ชวนคุยว่า

“ ใครเป็นแฟนผู้ชายคนนี้ละก็...น่าอิจฉาตายเลยค่ะ จะซื้อสร้อยเพชรให้แฟน ก็ออกแบบให้เอง ย้ำนักย้ำหนาต้องเหมือนกับแบบทุกประการนะ โถเราก็มืออาชีพอยู่แล้ว ทำไมจะทำไม่ได้ละคะ แต่ก็ออกแบบได้สวยนะคะ นี่ถ้าไม่เร่งเอา ดิฉันจะยืมไปออกงานอีกต่อหนึ่งเลยนะคะนี่ คุณหญิงดูสิคะ ”

ม.ร.ว. ศีตลา มองภาพนั้นอย่างอดไม่ได้ เธอไม่อยากเรียกว่าสร้อย น่าจะเรียกกำไลคอมากกว่า เพราะโรมรันวาดมันเหมือนเป็นห่วงสามเส้นซ้อนกัน ที่เส้นกลางจะมีเพชรรูปข้าวหลามตัดเล็ก ๆ ติดอยู่เป็นระยะตรงกึ่งกลางจึงเป็นหลามตัดเม็ดใหญ่ มีเส้นต่อลงมาประมาณสองสามนิ้วเป็นจี้รูปเหมือนนางฟ้ากางปีก

ก็ไม่เห็นว่ามันจะสวยตรงไหนเลย หญิงสาวคิดอย่างอคติ อารมณ์ขุ่นขึ้นมาตงิด ๆ ไอ้สร้อยเส้นนี้มันไม่มีวันเป็นของเธอหรอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า โรมรันจะสนใจเรื่องพรรค์อย่างนี้ด้วย ครั้งที่แล้วสั่งทำเข็มกลัดเพชรยังงั้นหรือ? เอาไปกำนัลสาวที่ไหนกันล่ะ? มีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือจะเป็นเด็กสาวน่ารักที่เขาควงไปกินข้าววันนั้น ?

“ ครั้งก่อนแค่สั่งทำเข็มกลัด แต่หนนี้เสร้อยพร้อมจี้เลย รูปนางฟ้า นางกินรีเหมือนครั้งที่แล้ว วาดได้ละเอียดดีนะคะ คุณหญิงว่าไหม? ”

คุณจันทร์เพ็ญ ยังชวนคุยจ้อ ไม่ได้สนใจสีหน้าของอีกฝ่าย ที่เลื่อนเอากล่องสร้อยเพชรที่เลือกไว้มาวางรวมตรงหน้า

“ บอกหญิงเพชรก็แล้วกันว่า ดิฉันเลือกสามเส้นนี้ไปโชว์ ส่วนเส้นนี้ ให้เอาเข้าประมูล ”

พูดแล้ว ม.ร.ว.สาวก็ลุกขึ้น

“ แล้วคุณหญิงจะกลับเลยหรือไม่เลือกสักเส้นไปใส่เล่นก่อนเหรอคะ? ” คุณจันทร์เพ็ญถาม

ม.ร.ว.สาวเหมือนจะคิดขึ้นได้ เธอเปิดกระเป๋ายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้

“ คุณจันทร์ลองขึ้นแบบให้ดูก่อนได้ไหม? เพื่อนเขาเคยออกแบบไว้ให้นานแล้ว ”

คุณจันทร์เพ็ญ เอาออกมาคลี่ดู แล้วอุทานว่า

“ สวยจังค่ะคุณหญิง ”

ม.ร.ว.ศีตลายิ้ม นึกในใจว่า คงไม่มีอะไรไม่สวยสำหรับคุณจันทร์เพ็ญกระมัง

“ แล้วหญิงจะแวะมาดูผลงานนะคะ ”

พอออกมาด้านนอก ม.ร.ว. ศีตลาก็ถึงกับฉุนกึก เมื่อโรมรันเอ่ยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า

“ คุณหญิง ช่วยจ่ายเงินมัดจำให้ผมหน่อย ลืมกระเป๋าไว้ใน รถ ”

“ ให้ลงบัญชีคุณน้าเอาไว้ ”

“ ไม่อยากให้คุณแม่รู้ เดี๋ยวถามเรื่องมาก ลงบัญชีคุณหญิงก็แล้วกัน ไม่เท่าไหร่หรอก ”

ม.ร.ว. ศีตลา ต้องข่มอารมณ์ เป็นอย่างมาก เขาปล่อยให้เธอรอเป็นนาน เลยเวลานัดหมายเกือบชั่วโมงจึงโทรไปบอกว่า ให้มาเจอกันที่ร้านเลย แต่พอมาเจอเขาก็ทำเฉย แล้วตอนนี้จะมาให้เธอจ่ายเงินมัดจำให้ก่อน เหมือนทุกอย่างเป็นไปตามปกติ เหมือนไม่รู้ว่าเธอโกรธเขาแค่ไหน เหมือนไม่สนใจว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายผิด แต่เพราะ เธอก็ไม่ต้องการแสดงความรู้สึกนี้ให้ใครเห็น จึงต้องยิ้มพูดกับคุณจันทร์เพ็ญ ซึ่งดูเหมือนจะงงๆ ว่า เธอกับเขารู้จักเขากันหรืออย่างไร

“ ถ้างั้นคุณจันทร์ก็ลงบัญชีดิฉันเอาไว้แล้วกัน ” หญิงสาวบอกแล้วเดินเร็วไปยังประตู พอกับที่โรมรันรับลุกเดินตาม เมื่อผลักประตูออกไป ม.ร.ว. ศีตลา เกือบจะชนเข้ากับบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งหากเขาไม่เบี่ยงตัวหลบให้เสียก่อนเธอต้องชนแน่ หญิงสาวจึงยิ้มให้เป็นเชิงขอโทษ

“ จะรีบไปไหน รู้รึเปล่าว่ารถจอดอยู่ไหน? ”.

เสียงโรมรันเอื่อย ๆ ตามหลัง ทำเอา ม.ร.ว.สาวต้องหันมามองหน้าตาวาว เม้มปากนิ่งไม่พูดอะไร แต่สายตาอย่างนี้ ก็บอกให้รู้ล่ะว่าเธอ โกรธ ซึ่งโรมรันก็รู้อยู่แก่ใจดีว่าเรื่องอะไร

“ ผมติดประชุมด่วน พอเสร็จก็รีบเอารถมาส่งคุณหญิงที่นี่เลย ” เขาบอกน้ำเสียงเรียบ ๆ ก่อนจะเดินนำหน้าเธอไปยังรถที่จอด เลยห่างออกไป เมื่อถึงโรมรันก็เปิดประตูรถ ก้มหยิบเอาโทรศัพท์และกระเป๋าเงินที่วางไว้คู่กันขึ้นมา แล้วยื่นกุญแจรถให้หญิงสาว

“ คุณหญิงขับกลับเองนะ ผมมีงานต้องทำ ”

แล้วเขาก็เดินเลยไปยังรถอีกคันหนึ่งที่จอดต่อท้ายอยู่ เปิดประตูเข้าไป ประตูยังรถยังไม่ปิดเลยด้วยซ้ำ เมื่อรถคันนั้นกระชากออกไป เหมือนรีบร้อนเสียเหลือเกิน

ม.ร.ว. ศีตลามองตามอย่างด้วยความโมโห ปนสงสัยเพราะตั้งใจที่จะเล่นงานเขา ให้เต็มที่เมื่อขึ้นรถ แต่นี่เขาดันชิ่งหนีไปเลย

หญิงสาวเข้าไปในรถ เมื่อผ่านครู่หนึ่ง อารมณ์ที่ขุ่นโกรธก็ลดลงเมื่อปลงได้ว่า กับโรมรัน ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะได้ยินคำขอโทษออกจากปากเขา แค่เขามานั่งรอบอกเหตุผลก็นับว่า เป็นเรื่องที่เขาทำได้ดีที่สุดแล้ว จากท่าทีที่รีบเร่งออกไปเมื่อครู่ ก็เหมือนเขาจะมีงานด่วนอย่างที่ว่าจริงๆ

ถึงโรมรันจะไม่เคยขอโทษ แต่เขาก็ไม่เคยโกหกหรือแก้ตัว เขาเป็นคนหยิ่งเกินไปที่จะทำอย่างนั้น และที่สำคัญ มันไม่จำเป็นอะไร ที่เขาจะมาแคร์ความรู้สึกของเธอ

หลายต่อหลายครั้งที่เขาทำให้เธอโกรธ คำขอโทษก็ไม่เคยออกจากปาก

“ ขอโทษทำไม ยังไง ๆ คุณหญิงก็ไม่สนใจจะให้อภัยอยู่แล้ว ” นี่เป็นคำพูดที่เธอได้ยินเขาตอบกลับคุณสรวงสุดา เมื่อครั้งที่ถูกผู้เป็นมารดาเคี่ยวเข็ญให้ขอโทษเธอ ถ้าไม่ใช่อย่างนี้ก็จะเป็น

“ ขอโทษทำไม ผมไม่ได้เป็นคนเริ่ม ถามเจ้าตัวเขาเองสิ ”

หากจะคิดอย่างยุติธรรมสักนิด มันก็พอ ๆ กับเธอนั่นแหละ คำสุภาพสามคำ ที่ควรใช้ติดต่อกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันคือ สวัสดี ขอโทษ ขอบคุณ มันไม่เคยใช้ติดต่อกันเลย ระหว่างเธอกับโรมรัน

และมันเป็นสิ่งที่รู้อยู่แก่ใจกันดีทีเดียว ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไร ต้องปล่อยให้ทุกอย่างผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร เธอก็ไม่ควรจะไปคิดถึงมันจริง ๆ

ยิ่งตอนนี้มีเจ้าของสร้อยเพชร รอรับมอบจากเขาอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องคิดถึง

:+:+:+:+:

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบูรณ์พิมพ์เป็นพอคเก็ตบุ้ค จำหน่ายในราคา 265 บาท
ที่เว็บเท่านั้น

 

 

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบรูณ์ ในรูปแบบ E-book แล้ว
สนใจ
คลิก


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย ฟีลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.