forwriter.com
 
นวนิยายรักโรแมนติก

 


ดั่งไฟรัก

โดย ฟีลิปดา

 

 

 

ม.ร.ว. ศีตลา จอดรถแล้วก็เดินแกว่งกุญแจ ฮัมเพลงเดินเข้าบ้านอย่างอารมณ์ดี แม้จะดึกและเพลียเพราะเพิ่งกลับจากงานเลี้ยง แต่เธอก็รู้สึกเป็นสุข โรเจอร์โทรมาชวนเธอไปเซี่ยงไฮ้ด้วย หากไม่คิดอะไรมันอาจจะเป็นเรื่องชวนเล่นธรรมดา แต่นี่ โรเจอร์เคยพูดเหมือนจะขอแต่งงานกับเธอ การชวนไปครั้งนี้ ถ้าคิดอย่างธรรมเนียมฝรั่ง มันก็แฝงนัยบางอย่างเอาไว้ แม้จะตอบปฏิเสธเขาไป แต่ ม.ร.ว.ศีตลา ก็รู้สึกมีความสุข มันจะไม่ให้เธออิ่มใจได้ยังไง กับการมีผู้ชายอย่างโรเจอร์ คาลวิน มาแสดงความสนใจเธออย่างออกนอกหน้าอย่างนี้ แสดงว่า ที่เขาพูดกับเธอในวันนั้น เขาไม่ได้พูดเล่น ๆ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะปลาบปลื้มและมีความสุข ตามประสาผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้

เมื่อเปิดประตูเข้าไป ม.ร.ว. ศีตลา ก็เห็นนางชมนาดนั่งรอเธอในห้องนั่งเล่นแทนคุณสรวงสุดา ที่ปกติจะต้องคอยเธอจนกว่าเธอจะกลับมาจากงานเลี้ยงเหมือนทุกครั้ง

“ คุณน้าขึ้นนอนแล้วเหรอป้าชม ”

“ บ่นว่าปวดหัว ขึ้นไปเมื่อตอนสามทุ่มนี่เองค่ะ ”

“ คุณน้าทานยาแล้วยัง มีไข้ไหม ? ” ม.ร.ว สาวถามอย่างเป็นห่วง

“ ไม่หรอกค่ะ ดิฉันบังคับให้กินยาไป แล้วไล่ขึ้นไปนอน อาจจะเป็นหวัดก็ได้ ”

“ ค่อยหายห่วงหน่อย ” ม.ร.ว. สาวทรุดตัวนั่งที่โซฟา ถอดรองเท้าส้นสูงออก ขยับปลายเท้าไปมา

“ เหนื่อยจัง หญิงออกงานซ้อน ๆ กันเกือบทั้งอาทิตย์แล้วนะนี่ ไม่ได้พักเลย เห็นทีวันหลังต้องหาคนไปขับรถให้แล้วล่ะ เมื่อกี้เคลิ้ม ๆ เกือบชนท้ายเขาแน่ะ ”

“ ตายจริง ” นางชมนาดอุทานอย่างตกใจ “ คราวหลังให้นายธรรม ขับให้ดีไหมคะ? ”

ม.ร.ว. ศีตลา หัวเราะกับคำแนะนำ

“ ป้าชม นายธรรมน่ะ จะหกสิบแล้ว ถ้าจะให้นายธรรมขับ หญิงขับเองดีกว่า ”

“ งั้นก็จ้างคนขับรถ ”

“ ไปบอกคุณน้าโน่น หญิงจะจ้างทีไรเป็นต้องห้ามทุกที ”

“ อ้าว ... ก็คุณหญิงเล่นบอกจะจ้างมาขับให้คุณผู้หญิงนี่คะ เธอไม่ยอมหรอก ”

ม.ร.ว.สาวยิ้มนิด ๆ กระบวนการเข้าใจใครต่อใครดีในบ้านนี้ เห็นจะไม่มีใครเกินป้าชมนาด

“ ทำไมดื้อนักก็ไม่รู้ เวลาคุณน้าขับรถเองหญิงก็เป็นห่วง อายุมากแล้ว เดี๋ยวก็เป็นอะไรไปหรอก ”

“ ก็เพราะคุณหญิง คิดว่าท่านแก่แล้วนี่ไงคะ ท่านเลยไม่ยอม ” นางชมนาดแก้แทน แต่ม.ร.ว.ศีตลายิ้มขำ

“ ใครบอกละ ? คุณน้าคุมหญิงต่างหาก ไม่อยากให้ไปไหนมาไหนตามใจ พอเราแย้ม ๆ จะไปไหนเป็นต้องบอกว่า ขี้เกียจขับรถเองให้ไปส่งท่านด้วยที่นั่นที่นี่ แล้วต้องมารับท่านกลับเวลานั้นเวลานี้เปะ ๆ เลย ไถลไม่ได้ ”

“ คุณหญิงอึดอัดเหรอคะ ? ” นางชมนาดถามอย่างเกรงใจ

“ เปล่า ขำน่ะ ทำยังกะหญิงเป็นเด็ก ๆ ไม่รู้ทันท่านต่างหาก ทำไมถึงนึกว่าหญิงจะอึดอัดละ ? ” ม.ร.ว.ศีตลาย้อนถามบ้าง

“ ไม่รู้สิคะ ก็เห็นช่วงหลัง ๆ นี่ เห็นคุณผู้หญิงโทรหาคุณรบบ่อย ๆ ให้มารับไปโน่นไปนี่บ้าง ”

“ จริงน่ะ ทำไมไม่เห็นคุยให้ฟังบ้าง ”

“ คงเห็นว่าคุณหญิง ไม่ชอบคุณรบ คุณผู้หญิงเลยไม่คุยให้ฟังมังคะ ”

หญิงสาวกัดริมฝีปาก สายตามองไปยังนางชมนาดอย่างงอน ๆ

“ ป้าชมต่างหาก ที่ไม่คุยให้หญิงฟัง เดี๋ยวเขาก็หาว่าหญิงไม่ดูแลแม่เขาหรอก ”

นางชมนาดยิ้มอยู่ในหน้า เมื่อได้ยินคำพูดของหญิงสาว

“ คงไม่หรอกค่ะ เพราะคุณผู้หญิงก็บอกอยู่ว่า คุณหญิงน่ะงานยุ่ง คุณรบก็ไม่เห็นว่าไง ถ้าคิดก็คงแกล้งพูดให้ป้าเก็บมาบอกคุณหญิงแล้ว ”

“ ว่าได้เหรอ ยิ่งลมเพลมพัดอยู่อย่างนั้น ”

“ คุณหญิงก็ช่างว่า คุณรบเธอไม่เกเร เหมือนเด็ก ๆ แล้วล่ะค่ะ ”

“ ก็เปลี่ยนไป กวน เหมือนผู้ใหญ่แล้วไง ”

“ ไม่ต้องมาย้อนกับป้าหรอกค่ะ โน่นเลย ถ้าอยากจะทะเลาะกับคุณรบ อยู่ในห้องสมุดโน่น ” นางชมนาดพูดอย่างหมั่นไส้

ม.ร.ว.ศีตลาขมวดคิ้ว เมื่อครู่ทำไมเธอไม่เห็นรถของเขาเลย แต่ก็นั่นแหละ โรมรันใช่ว่าจะมีรถใช้ประจำเสียที่ไหน ยังมายืมเอาที่นี่เลย

“ คุณน้าเรียกคุณรบมาอีกเหรอคะ ? ”

“ ก็ไม่รู้สิคะ มาหลังจากที่คุณผู้หญิงขึ้นข้างบนแล้ว แต่ก่อนหน้าคุณหญิงจะกลับสักชั่วโมงนี่เองค่ะ มาถึงก็คว้าขวดเหล้า เข้าห้องสมุดไปเลย ”

“ มิน่า ที่ขวดเหล้าหญิงพร่องลงบ่อย ๆ ก็เพราะเขานี่เอง ”

“ คุณหญิง ” นางชมนาดเรียกอย่างเหลืออด

ม.ร.ว. ศีตลา ก็เลยหัวเราะ

“ หญิงก็แค่พูดเล่น ป้าชมนี่ก็เข้าข้างคุณรบเหมือนกันนะนี่ นึกว่าจะอยู่ข้างหญิงเสียอีก ”

“ ป้าไม่ได้อยู่ข้างใครหรอกค่ะ แต่ไม่ชอบเห็นทะเลาะกันเหมือนเด็ก ๆ อีก ”

“ ก็ตอนนี้ทะเลาะกันแบบผู้ใหญ่แล้วค่ะป้า ”

นางชมนาดส่ายหัว กับคำยอกย้อนของหญิงสาว เลยบอกว่า

“ ป้าไปนอนดีกว่า ดึกแล้ว คุณหญิงอย่าไปกวนคุณรบนะคะ ป้าเห็นหน้าแล้วท่าทางจะอารมณ์ไม่ดี เป็นแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ ”

คุณหญิงทำตาโต แล้วก็พยักหน้าหงึก ๆ พูดอย่างแข็งขันว่า

“ เดี๋ยวหญิงก็จะขึ้นนอนเหมือนกัน ไม่ไปรบกวนเจ้าชายของป้าหรอกค่ะ ”

แต่หลังจากนั่งนิ่ง ๆ อยู่สักครู่ มั่นใจว่า นางชมนาด ไปแล้ว ม.ร.ว. ศีตลา ก็ลุกขึ้นเดินไปยังห้องสมุด

มีแสงสลัว จากภายนอกสาดส่องเข้ามาด้านที่ตั้งโซฟา คงเป็นโรมรันที่เปิดม่านเอาไว้ หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ ก็เห็นเขานั่งเหยียดยาวอยู่กับพื้น เอนหลังพิงโซฟา สองมือประคองศีรษะตัวเองเอาไว้

เธอยืนนิ่งมองเขาอยู่เฉย ๆ ความรู้สึกบอกตัวเองว่า โรมรันไม่ได้หลับ และเขาต้องรู้ว่าเธอมายืนอยู่ที่นี่ แต่เมื่อยืนอยู่เป็นครู่เขายังนิ่ง ทำให้ม.ร.ว.ศีตลาชักลังเล ไม่กล้าเดินเข้าไป ท่าทางเขาคงอยากจะอยู่คนเดียวมากกว่า เมื่อตอนเด็กความเป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน ไม่อยากให้เห็นหน้าบึ้ง ๆ เหมือนโกรธใครของเขา ทำให้เธอเข้าไปหาเขาเพื่อจะถามประจบเอาใจ แต่กลับเจออารมณ์หงุดหงิดแสดงท่าไม่แยแสของเขาบ่อย ๆ ความรู้สึกที่อยากเอาใจเขาเลยกลายเข้าไปพูดประชด เยาะเย้ยโดยลืมความตั้งใจดีอันแรกของตัวเองเสียหมด นั่นเลยยิ่งทำให้โรมรันไม่ชอบหน้าเธอเข้าไปใหญ่

แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็ก ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่เธอจะทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ โดยไม่คิดถึงความเหมาะสมอีกต่อไป ที่สำคัญเธอไม่อยากให้เขาคิดว่าเธออยากจุ้นเรื่องของเขา คิดดังนั้นหญิงสาวจึงหันหลังกลับ

“ ถามอะไรอย่างซิ? ”

เสียงเขาฟังรัว ไปนิด แต่เธอก็หยุดหันกลับมา ยังเห็นเขาอยู่ในท่าเดิม

“ อะไร ? ”

เสียงโรมรันถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดว่า

“ แค่อยากรู้น่ะว่า ถ้าผมข่มขืนคุณหญิง คุณหญิงจะรักผมไหม ? ”

คำถามนี้ เล่นเอา ม.ร.ว. ศีตลา ชาวาบไปทั้งตัว อยู่ดี ๆ เขาเอาคำถามมหาโหดอย่างนี้มาจากไหน ป้าชมบอกว่าท่าทางแปลก ๆ รึว่า ?

“ คุณรบไปข่มขืน ผู้หญิงที่ไหนมาเหรอคะ ? ” เธอย้อนถามเสียงสั่น อย่างไม่รู้ตัว

“ ทำไมชอบคิดว่าผมจะทำแบบนั้นนะ ” เสียงตอบเขาเนือย ๆ ชอบกล

“ ก็ใคร เขาจะถามคำถามแบบนี้กันเล่น ๆ ละ ”

“ ผมก็ถามเพราะสงสัยและอยากรู้จริง ๆ ”

“ งั้นก็ไม่รู้ ” ม.ร.ว. ศีตลาตอบดื้อ ๆ

“ อ้าว ... ” อุทานแล้วก็เงียบไป ก่อนจะวิเคราะห์ว่า

“ ไม่รู้ ก็แสดงว่าอาจจะรักหรือไม่รักแต่ไม่โกรธหรือเกลียด ใช่ไหม ? ”

“ ก็ไม่รู้ เพราคุณรบถามเจาะจงเกินไป มันวาดภาพไม่ออกคุณรบจะข่มขืนดิฉันได้ยังไง ถ้าถามแบบความคิดเห็นของผู้หญิงคนหนึ่งหากถูกข่มขืนก็ค่อยยังชั่ว ”

โรมรันหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ

“ เอาแบบนั้นก็ได้ คุณหญิงมานั่งก่อนสิ ” เขาใช้มือตบข้าง ๆ ตัวเอง ก่อนจะพูดต่อว่า “ ถ้าไม่กลัวผมนะ ? ”

หญิงสาวแค่นเสียงในลำคอ เดินเข้ามา

“ คุณถอยไป จะให้ดิฉันนั่งที่พื้นได้ยังไงใส่ชุดอย่างนี้ ”

โรมรันเงยหน้า แม้ห้องจะไม่สว่างมากนัก แต่เขาก็เห็นหญิงสาวร่างระหง ที่ใส่เดรสรัดรูปคอถ่วงแขนกุดสีดำสั้นเหนือเข่า เขาไม่อยากคิดอะไรให้มากไปกับเครื่องแต่งกายอย่างนี้ เพราะใคร ๆ ก็ใส่กันทั้งนั้น แต่เขารู้ว่าเธอต้องเด่นกว่าใคร ๆแน่ ชายหนุ่มเลื่อนตัว ทิ้งระยะห่างจากเธอไปเกือบสุดปลายโซฟาอีกด้าน ม.ร.ว.สาวทรุดตัวนั่ง ความแคบของชุดราตรีสั้นทำให้เธอต้องนั่งไขว้ห้าง ขนานไปกับเขา

“ เอ้า ... ว่ามา ” ถามอย่างเป็นการเป็นงาน ให้ตาย เธอไม่นึกกลัวเขาบ้างหรือไงนะ

“ โดยปกติไม่มีผู้หญิงคนไหนรักผู้ชายที่ข่มขืนเธอหรอกค่ะ นอกจากนางเอกในนวนิยายที่ถูกพระเอกข่มขืน แต่ก็เป็นพล็อตที่แย่มาก ”

“ ก็ถ้าผู้หญิงถูกข่มขืน แต่ยังช่วยคนที่ข่มขืนเธอล่ะ ? จะหมายความว่าเธอรักเขาได้ไหม ? ”

“ คุณรบกำลังทำคดีอยู่หรือเปล่าคะ ? ” เธอย้อนถาม

“ จะว่างั้นก็ได้ ”

“ ทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนหรือเปล่า ? เป็นเพื่อน เป็นญาติ เป็นแฟน หรือว่าถูกจ้าง ”

โรมรันนิ่งไปตอบ เพราะรู้ดีว่าที่เขาถามคุณหญิง ก็เพียงอยากจะฟังมุมมองของผู้หญิงเท่านั้นเอง เหมือนกับจะหาฟางสักเส้น ที่จะบอกเขาว่าไม่ใช่อย่างที่เขาคิด แต่ ...

“ ถ้านี่ไม่ใช่เพศสัมพันธ์ครั้งแรก ก็น่าจะสันนิษฐานได้ว่า รักค่ะ ”

โรมรันยกขวดเหล้าขึ้นดื่มอึกใหญ่ แล้วนิ่งเงียบ จากกิริยานั้นทำให้ ม.ร.ว. ศีตลารู้ว่ามันมีสิ่งรบกวนใจโรมรันจริง ๆ หรือสิ่งที่เขาถาม มันจะเกิดขึ้นกับคนที่โรมรันแคร์ เธอไม่เคยเห็นท่าทางอย่างนี้ของเขา ผิดหวังอะไรอย่างรุนแรง พระช่วย ... เหมือนคนอกหัก

“ คุณรบเป็นอะไรหรือเปล่า ? ”

“ เมา ” เขาตอบสั้น ๆ ฟังดูเหมือนเป็นโรมรันคนเดิม แต่แล้วเขาก็เงียบ และความเงียบมันก็ชวนให้อึดอัด จนเธอต้องลุกขึ้น

“ งั้นดิฉัน ขึ้นนอนล่ะ ? ”

“ เดี๋ยวสิ อยู่คุยกันก่อน ”

ม.ร.ว.ศีตลาชะงัก ทำไมน้ำเสียงเขาดูอ้างว้าง เหงาๆ อย่างนี้ และโรมรันไม่เคยขอร้องอย่างนี้มาก่อน หรือว่าเขาอกหัก อย่างที่เธอคิดจริงๆ ผู้หญิงคนไหนล่ะ? ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพน่าสมเพชอย่างนี้ได้ หญิงสาวทอดสายตามอง โรมรันที่นั่งคอตกผมยุ่งตาแดงกล่ำ มันน่าสมน้ำหน้านัก แต่ความรู้สึกหนึ่ง ก็ทำให้หญิงสาวขัดเคืองตัวเอง เมื่อคิดว่ามีผู้หญิงอื่นทำให้เขาเป็นอย่างนี้ มันน่าจะเป็นเธอเท่านั้น เพราะคิดอย่างนี้เสียงพูดจึงออกจะสะบัดไม่น้อยว่า

“ ไม่อยากคุยกับคนอกหัก เอ้ย ... คนเมา ”

“ ว่าไงนะ ? ” โรมรันย้อนเสียงสูง

“ ดิฉันจะขึ้นไปนอน ” หญิงสาวหันหลัง

“ ขืนไปมีเรื่อง มาหาว่าผมอกหักได้ยังไง ”

“ ดิฉันว่าคุณเมาต่างหาก ” เธอเถียง จะเดินไป

“ ขี้ขลาด ”

คราวนี้ม.ร.ว. ศีตลาหันขวับ

“ ทำไม ดิฉันว่าคุณอกหัก แล้วเป็นไง มีปัญหาเหรอ อยู่ดี ๆ มาถามแปลก ๆ นั่งเงียบ ๆ ดื่มเอา ๆ อย่างนี้มันผิดปกตินี่ ไม่อกหัก คุณจะบ้ามานั่งเป็นเบื้ออยู่อย่างนี้เหรอ ”

“ เป็นชุด เลยนะคุณหญิง ”

โรมรันลุกขึ้นยืน เดินมาสองสามก้าว ก็เหมือนจะเซสะดุดไปข้างหน้า อย่างไม่รู้ตัว ม.ร.ว. ศีตลา ก้าวเข้ามาเหมือนจะประคองเขาไม่ให้ล้ม ชายหนุ่มเลยกอดเข้าให้อย่างเต็มรัก

ม.ร.ว.ศีตลายืนนิ่ง มันไม่ใช่การกอดอย่างคนที่จะล้มแล้วผวากอด แต่เป็นการดึงตัวเธอเข้าไปในอ้อมแขนเขาชัด ๆ แล้วเธอก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ชิดใบหูก่อนเสียงกระซิบจะตามมาว่า

“ หลอกง่ายจังนะคุณหญิง ในชีวิตคิดว่าน่าจะมีอยู่คนเดียวที่จะทำให้ผมอกหักได้ แต่แย่จังเธอไม่ค่อยจะกล้าลองสักเท่าไหร่ ”

แล้วเขาก็ปล่อยตัวเธอ เดินตัวตรงไปได้สองสามก้าว ก็หันมาพูดว่า

“ อ้อ ... เกือบลืม ผมไม่ได้หลอกกอดคุณหญิงฟรี ๆ หรอกนะ เมื่อวานไปเกาะสวรรค์มา เอาดาวมาฝากคุณหญิงสองดวง ไปดูสิผมแขวนไว้บนท้องฟ้านั่นแหละ ดูดี ๆ ระวังอย่าไปขี้ตู่เอาของคนอื่นล่ะ ”

หญิงสาวได้แต่ยืนอึ้ง มองโรมรันเดินออกไปอย่างโมโหตัวเอง ที่หาคำโต้ตอบเขาไม่ทัน

หนอย ! จะเป็นจะตายอยู่เมื่อครู่ ก็สะบัดปีกกล้าเหมือนเดิมเชียวนะนายโรมรัน

ต้องมีสักวันล่ะน่า ไอ้ท่าผยองอย่างนี้ ต้องถูกเด็ดเสียจริงๆ

ในชีวิตคิดว่าน่าจะมีอยู่คนเดียว ทำให้ผมอกหักได้

โธ่เอ้ย ! แน่จริงก็บอกมา ตรง ๆ เลยสิ ชื่ออะไร?

หมั่นไส้ !

 

:+:+:+:+:+:

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบูรณ์พิมพ์เป็นพอคเก็ตบุ้ค จำหน่ายในราคา 265 บาท
ที่เว็บเท่านั้น

 

 

นวนิยาย ดั่งไฟรัก เสร็จสมบรูณ์ ในรูปแบบ E-book แล้ว
สนใจ
คลิก


© ลิขสิทธิ์ตามกฏหมายโดย ฟีลิปดา

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 
 

 

๑๐๐ คำถามสร้างนักเขียน
นวนิยายคุณเขียนได้ด้วยตัวเอง
 

 

ดั่งไฟพิศวาส
นวนิยายรักเร้าอารมณ์
 

 

2009 free writing

 



๕๐๕ แคนโต้แห่งความรัก

 

 

 

  http://www.forwriter.com . © 2005 All rights reserved.